มาแล้วทริปที่ทุกคนรอคอย กับการเที่ยวสุดฟินกลางสายฝนกับรถไฟขบวนพิเศษ KIHA183 ตลอด3เดือน ก.ค.-ก.ย. เอาใจขาลุยเที่ยวสุดชิคทั้งแบบวันเดย์ทริป หรือค้างคืน
นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ร.ฟ.ท. จัดโปรแกรมท่องเที่ยวสุดพิเศษ ขบวนรถไฟ KIHA 183 ต่อเนื่องตลอดทั้งปี ทั้งแบบวันเดย์ทริป ไปเช้ากลับเย็น และแบบพักค้างคืน โดยแต่ละเดือนจัดโปรแกรมการท่องเที่ยว หลายสไตล์ เพื่อเปิดประสบการณ์ให้นักเดินทางได้สัมผัสการท่องเที่ยวทางรถไฟอย่างหลากหลาย ล่าสุด การรถไฟฯ ขออัพเดทโปรแกรมท่องเที่ยว ขบวนพิเศษ KIHA 183
ประจำเดือนกรกฎาคม - กันยายน 2566 เพื่อให้นักเดินทาง เตรียมตัววางแผนเดินทาง พร้อมกับเริ่มเปิดให้จองตั๋วโดยสารล่วงหน้า ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2566 เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป สามารถจองตั๋วล่วงหน้าก่อนวันเดินทางได้ไม่เกิน 30 วัน โดยมีรายละเอียด ดังนี้
เดือนกรกฎาคม 2566 : คอนเซ็ปต์ สืบสาน รักษา ต่อยอด (โครงการพระราชดำริ) ชวนเที่ยวตามรอยศาสตร์พระราชา ใน 5 เส้นทาง 5 จังหวัด ซึ่งเชื่อมโยงกับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้แก่
เดือนสิงหาคม คอนเซ็ปต์ : พิรุณโปรยปราย เที่ยวสบาย ๆ กลางสายฝน มาร่วมกันเปลี่ยนหน้าฝนนี้ให้เป็นหน้าฝนที่น่าเที่ยว
เดือนกันยายน คอนเซ็ปต์ : นั่งรถไฟอิ่มบุญ ปันรอยยิ้ม” เที่ยวกันทั้งทีต้องดีต่อใจ การรถไฟฯ ชวนเที่ยวทำบุญและแบ่งปันรอยยิ้มให้กับน้อง ๆ ตามแบบฉบับคนอิ่มบุญ
สำหรับผู้เดินทางท่องเที่ยวทุกทริปจะมีบริการเสิร์ฟอาหารเช้าสไตล์ญี่ปุ่น พร้อมเครื่องดื่ม และอาหารเที่ยงสุดพิเศษ ตลอดจนรับของที่ระลึกสุดพิเศษจากการรถไฟฯ ทุกคน นอกจากนี้ ภายในขบวนรถจะมีวิทยากร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่คอยบรรยายให้บริการและอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง ผู้สนใจติดต่อซื้อตั๋วโดยสารได้ที่สถานีรถไฟทุกแห่ง หรือ ผ่านระบบ D-Ticket ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2566 เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป จำกัดจำนวน 200 ที่นั่งต่อทริป สามารถจองตั๋วล่วงหน้าก่อนวันเดินทางได้ไม่เกิน 30 วัน หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
“การจัดขบวนรถไฟท่องเที่ยว บนขบวนรถไฟ KIHA 183 เป็นการดำเนินการตามนโยบาย นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่มอบหมายให้การรถไฟฯ บูรณาการความร่วมมือ กับหน่วยงานพันธมิตร ภาครัฐ ภาคเอกชน จังหวัดต่าง ๆ เพื่อให้รถไฟฯ เข้าไปมีส่วนร่วมสนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ ก่อให้เกิดการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น และสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน”