“เซ็นทารา” ต่อจิกซอว์ ขยายแบรนด์สู่ญี่ปุ่น ปักธงโรงแรมแรกมูลค่า 9 พันล้าน

ปัจจุบันเซ็นทารา มีโรงแรมและรีสอร์ทในเครือทั้งที่เปิดให้บริการแล้ว และอยู่ในช่วงกำลังพัฒนา 93 แห่ง ใน 13 ประเทศทั่วโลก (รวมไทย) รวม 20,081 ห้อง เฉพาะในต่างประเทศอยู่ที่ 39 แห่ง ทั้งในมัลดีฟส์ ศรีลังกา เวียดนาม ลาว เมียนมา กัมพูชา จีน ตุรกี โอมาน กาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวม 9,488 ห้อง ล่าสุดเพิ่งเปิดให้บริการ “เซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า” โรงแรมแฟล็กชิพของเซ็นทาราแห่งแรกในญี่ปุ่น

โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า ที่เพิ่งจะเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา ใช้เวลาในการก่อสร้างนานกว่า 3 ปี ซึ่งบริษัทโรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ “CENTEL” ได้ร่วมลงทุนกับ 2 บริษัทก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น เนรมิตที่จอดรถ สร้างโรงแรมขนาด 515 ห้อง สูง 33 ชั้น แห่งนี้ขึ้น โดยเป็นส่วนหนึ่งในพื้นที่ของ นัมบะ พาร์ค เซ้าท์ ใจกลางย่านนัมบะ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและช้อปปิ้งของเมืองโอซาก้า และภูมิภาคคันไซ

การลงทุนโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า ทาง CENTEL ถือหุ้น 53% ส่วนพาร์ทเนอร์ญี่ปุ่น ได้แก่ Taisei Corporation และ Kanden Realty & Development ถือหุ้นรวมกัน 47% มูลค่าเงินลงทุนรวม 31,000 ล้านเยน หรือราว 9,000 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงแรมแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของเมืองโอซาก้า

นายธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารากล่าวว่า เรามองขยายแบรนด์เซ็นทาราในญี่ปุ่นมานานหลายปี ก่อนเริ่มโครงการนี้เรามองไว้ 2 เมือง คือ โตเกียว กับ โอซาก้า เมื่อมาดูในรายละเอียดเราเห็นว่าโอซาก้าน่าสนใจจึงเลือกลงทุนโอซาก้า เป็นเมืองแรกในญี่ปุ่น เพราะเป็นเซ็นเตอร์ที่ตอบโจทย์การเดินทาง

ทั้งเรื่องของช้อปปิ้งย่านนัมบะ เดินต่อไปถ่ายรูปป้ายไฟกูลิโกะ ถนนสายชินไซบาชิ เที่ยวแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในโอซาก้า หรือจะเดินทางไปเที่ยวเมืองนารา ก็ใกล้ หรือจะไปเมืองเกียวโต ก็อยู่ห่างราว 50 กิโล เมตร และตอบโจทย์นักท่องเที่ยวไทย ซึ่งชอบเดินทางมาท่องเที่ยว รวมถึงนักท่องเที่ยวจากตลาดอื่นๆ อย่างเกาหลี จีน

ด้วยโลเคชั่นของโรงแรมที่โดดเด่นที่สุดในย่านนัมบะ และโอกาสที่ได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 2 บริษัทในญี่ปุ่น ทำให้เกิดโอกาสดีๆในการลงทุนนี้เกิดขึ้น อีกทั้งในขณะนี้ยังอยู่ในช่วงที่ศึกษา และมองหาโอกาสเพิ่มเติมในหัวเมืองใหญ่ๆ อื่นในญี่ปุ่น อาทิ ในโตเกียว เกียวโต รวมถึงการมองหาโอกาสในการรับบริหารโรงแรมเพิ่มเติมในเมืองเหล่านี้อีกด้วย

การท่องเที่ยวโอซาก้าฟื้นตัว อย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่ประเทศญี่ปุ่นและค่าเงินเยนที่อ่อนตัว ทำให้มีดีมานต์ และคาดว่ากระแสการท่องเที่ยวโอซาก้าจะคึกคักมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะในช่วง “World Expo” ในปี 2025

นายทากาชิ ยามาซากิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโครงการพัฒนาในเมือง บริษัท ไทเซอิ คอร์เปอเรชั่น ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ลงทุน กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า ว่าเรามีแผนจะพัฒนาพื้นที่นี้ให้เกิดโปรเจ็กต์ดีๆ และมีโอกาสได้ทำงานร่วมกับเซ็นทารา ซึ่งมีแนวคิดจะเปิดโรงแรมแห่งแรกในญี่ปุ่น

โดยบทบาทของเรามีส่วนร่วมในการออกแบบและก่อสร้าง การทำงานร่วมกันระหว่างเซ็นทารา เราก้าวข้ามผ่านความท้าทายเรื่องของวัฒนธรรมที่แตกต่างกันได้ การสร้างโรงแรมสำเร็จและออกมาดี ทางเราก็รู้สึกภูมิใจ หากมีโอกาสที่น่าสนใจในอนาคตก็อาจจะมาร่วมงานกันอีก

นายเคนอิชิ ฟูจิโนะ ประธานบริษัท คันเดน เรียลตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผู้ลงทุน กล่าวว่า บทบาทของบริษัทในโครงการนี้คือให้คำปรึกษาด้านข้อปฏิบัติในการลงทุนในญี่ปุ่น และให้คำแนะนำต่างๆ ซึ่งโรงแรมนี้จะเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของโอซาก้า ที่มีผสมผสานวัฒนธรรมไทยและญี่ปุ่นอย่างลงตัว การเดินทางก็สะดวก นั่งรถไฟจากสนามบินมาลงสถานีนัมบะ เพียง 1 ต่อก็เดินทางมายังโรงแรมได้เลย

นายกันย์ ศรีสมพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา และรองประธานฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า มูลค่าเงินลงทุนรวม 31,000 ล้านเยน หรือราว 9,000 ล้านบาท โดยเป็นการใช้เงินกู้จากธนาคารมิซูโฮ 20,700 ล้านเยน CENTEL ลงทุน 5,300 ล้านเยน ที่เหลือเป็นการลงทุนของผู้ร่วมลงทุนญี่ปุ่นทั้ง 2 บริษัท

เซ็นทาราสนใจลงทุนในญี่ปุ่นมาก เพราะเป็นเมืองที่ศักยภาพด้านการท่องเที่ยวก่อนเกิดโควิดญี่ปุ่นมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเมาเที่ยว 32 ล้านคน (ปี 2562) ใกล้เคียงกับประเทศ ไทยซึ่งมีจำนวน 42 ล้านคน อีกทั้งหลังญี่ปุ่นเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวก็จะเห็นดีมานต์การเดินทางของนักท่องเที่ยวก็เพิ่มขึ้น และที่สำคัญคือ ผลตอบแทนจากการลงทุน ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานของเราด้วย นอกจากโอซาก้าแล้ว เราก็มองว่าเมืองที่จะเข้าไปลงต่อที่ญี่ปุ่นเป็นแห่งที่ 2 น่าจะเป็นเมืองเกียวโต

ขณะที่จุดเด่นของโรงแรม นายชิเกกิ นาคากาวา ผู้จัดการทั่วไป โรงแรม เซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า กล่าวว่า นอกจากจุดเด่นด้านโลเคชั่นที่ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ และแหล่งช้อปปิ้งสำคัญย่านดงโทโบริ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ทำให้เดินทางได้อย่างสะดวกสบายแล้ว ดีไซน์ของโรงแรมผสมผสาน element แบบไทย เข้ากับรูปแบบดีไซด์ของญี่ปุ่น

เช่น มีรถตุ๊กตุ๊กๆ รับส่งสถานีรถไฟแห่งแรกของโอซาก้าบริการสปาเซ็นวารี มี 8 ห้องอาหารและรูฟท็อป บาร์ ซึ่งเป็นรูฟท็อปบาร์ดีที่สุดในโอซาก้า เพราะไม่ค่อยได้เห็นในโรงแรมญี่ปุ่น ห้องอาหารไทยสวนบัวโดย เชฟคนไทย บาร์อัตโนมัติที่มาพร้อมคอนเซปท์สนุกๆ อย่าง Automata เป็นต้น

ทั้งนี้เซ็นทาราคาดว่าตลอด 6 เดือนนี้โรงแรมจะมีอัตราการจองที่พักโรงแรมเฉลี่ยอยู่ที่ 70% ลูกค้ากว่า 30-40% จะเป็นคนญี่ปุ่น ส่วนที่เหลือจะเป็นคนไทย คนจีน และเกาหลี รวมถึงยุโรป

โรงแรมแห่งนี้จึงเป็นหมุดหมายแรกในการปักธงในญี่ปุ่นของเซ็นทาราได้สำเร็จที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นแห่งแรกแต่ไม่ใช่แห่งเดียวในญี่ปุ่นแน่นอน