เปิดมุมมองรัฐ-เอกชนปักธง Thailand...Global Destination

04 ต.ค. 2566 | 10:45 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ต.ค. 2566 | 10:53 น.

เจาะลึกสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย ผ่านมุมมองรัฐ-เอกชน "ททท. ,AOT ,เอ็มพี กรุ๊ป ,ไทยแอร์เอเชีย" พร้อมเช็คเป้าหมายสู่การเป็น Thailand...Global Destination ไทยจะเดินหน้าอย่างไร

ในงานสัมมนา Thailand Economic Outlook 2024 Change the Future Today ที่จัดโดยกรุงเทพธุรกิจ ในช่วงเซสชันที่ 2 ได้มีการพูดคุยกันในหัวข้อ "พลังเอกชน ปักธง Thailand...Global Destination ดึงนักท่องเที่ยวทั่วโลก เคลื่อนเศรษฐกิจไทย" โดยภายใต้หัวข้อดังกล่าวมีวิทยากร 4 ท่านร่วมพูดคุยได้แก่

 

นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ,ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย ,นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย และอุปนายกสมาคมสายการบินประเทศไทย และ นางสาวนทพร บุญบุบผา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็มพี กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด 

งานสัมมนา Thailand Economic Outlook 2024 Change the Future Today

สำหรับมุมมองของทั้ง 4 ท่านเกี่ยวกับการท่องเที่ยวไทยรวมไปถึงแผนการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามายังประเทศไทยจะเป็นอย่างไรนั้น วันนี้ "ฐานเศรษฐกิจ"รวบรวมมานำเสนอดังต่อไปนี้ 
 


ททท.มั่นใจปีนี้นักท่องเที่ยวเข้าเป้า 25-30 ล้านคน ย้ำให้ความสำคัญการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน 

นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ในปี 2023 ททท.ตั้งเป้าหมายนักท่องเที่ยว 25-30 ล้านคน โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังประเทศไทยได้แก่ มาเลเซีย ประมาณ สามล้านกว่าคน  ,จีน ประมาณสองล้านกว่าคน ,เกาหลีใต้ ประมาณหนึ่งล้านคน  ,อินเดีย ประมาณล้านกว่าคน และ รัสเซีย 

 

"ตอนนี้นักท่องเที่ยวเข้ามาไทยพอสมควร ทุกตลาดยังไม่กลับไปสู่พรีโควิด แต่ถ้าดูจากจำนวนนักท่องเที่ยว ที่เป็นตลาดหลักๆก็กลับมา 60-70 % ดังนั้นถ้าดูจากเทรนด์แล้วก็น่าจะได้อยู่ และแม้ว่าตัวเลขจะไม่ได้กลับไปเท่ากับช่วงก่อนที่จะเกิดโควิดแต่ก็ถือแนวโน้มตอนนี้น่าจะได้ตามเป้าที่วางไว้ "

 

นายฉัททันต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่ต้องการอยากให้รัฐช่วยผลักดันคือ การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ข้อนี้ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และอีกหนึ่งข้อคือที่ดำเนินการมาตั้งแต่รัฐบาลที่ผ่านมาอย่าง Ease of Traveling หรือระบบการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ที่ต้องสะดวก รวดเร็ว แม่นยำ

 

นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
 

AOT เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยี งัดอินเทนชีฟดูดสายการบินเข้าไทย

ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย AOT กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐฯที่ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยว โดยเฉพาะหลังจากมีนโยบายวีซ่าฟรี ทำให้มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่ง AOT พยายามดึงดูดนักท่องเที่ยว หามาตรการต่างๆที่จะทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มอีก อาทิ การเช็คอิน ,การตรวจค้น , ตม. เพื่อให้เดินทางได้สะดวก และยังหาอินเทนซีพแก่สายการบินจีนเพื่อขนนักท่องเที่ยวเข้ามาในไทยเพิ่มขึ้น 

 

ทั้งนี้ AOT ได้เตรียมความพร้อม ด้วยการนำเทคโนโลยีต่างๆมาใช้ อาทิ ไบโอเมทริก ,การเช็คอินด้วยตัวเองผ่านตู้คีออส ,ออโตเกท ,ระบบขนส่งกระเป๋าและสัมภาระ ซึ่งเทคโนโลยีทั้งหมดที่ได้นำมาใช้ก็เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว 

 

นอกจากนั้นแล้วยังปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน การก่อสร้างส่วนขยายของสนามบินต่างๆไม่ว่าจะเป็นสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต ซึ่งแผนทั้งหมดนี้เป็นการรองรับผู้โดยสารทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว ขณะเดียวกันก็คำนึงถึงความยั่งยืน Sustainability โดยภายใน 4 ปีไฟฟ้าที่ใช้ในท่าอากาศยานทั้งหมดจะมาจากพลังงานแสงอาทิตย์ หรือรถที่ให้บริการทั้งลีมูซีน แท็กซี่ รถบัส รถที่ใช้ในแอร์ไซท์ทั้งหมดจะต้องเป็นรถไฟฟ้า

ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย

เอ็มพี กรุ๊ป แนะ Health Product เพิ่มมูลค่าท่องเที่ยวไทย

นางสาวนทพร บุญบุบผา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็มพี กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ประเทศไทยอาจจะไม่ได้มองเฉพาะแพ็คเกจการท่องเที่ยวแต่เพียงอย่างเดียว แต่ต้องเพิ่มมูลค่าเพิ่ม เติมเรื่อง Health Product เข้าไปด้วยเพราะว่ามีมูลค่าที่สูงมาก และจะทำให้เกิดการ Spending Cycle ได้ 

นางสาวนทพร บุญบุบผา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็มพี กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด

 


ไทยแอร์เอเชีย คาดปี 2025 สายการบินพร้อมกลับมาบินเต็มสูบ

นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย และอุปนายกสมาคมสายการบินประเทศไทย กล่าวว่า สถานการณ์ของสายการบินในตอนนี้ เครื่องบินยังน้อย แต่จำนวนคนเดินทางนั้นเกือบจะเทียบเท่ากับตอนปี 2019 (ก่อนที่จะเกิดโควิด) และคาดว่าในปี 2024 จะสามารถขนผู้โดยสารได้เท่ากับปี 2019 หรืออาจจะมากกว่า 10-15 % 

 

"ส่วนความพร้อมของเครื่องบิน ที่จอดไว้ในช่วงโควิดนั้น ก่อนอื่นเครื่องบินทุกลำต้องเอาไปที่ศูนย์ซ่อมก่อน ซึ่งเครื่องบินไม่ได้เสียแต่ต้องรอซ่อมบำรุง คาดว่าปีหน้าทั้งปี เครื่องบินที่จอดอยู่จะกลับมาทุกสายการบิน นั่นหมายถึงว่าเครื่องบินของทุกสายการบินจะกลับมาพร้อมบินในปี 2025 และคาดว่าจะมีจำนวนผู้โดยสารมากกว่า 40 ล้านคนในปี"

 

นายธรรศพลฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่ต้องการฝากภาครัฐ ไทยไม่มีแมนเมดท่องเที่ยว อยากให้รัฐบาลไปเอาดิสนีย์แลนด์ ยูนิเวอร์แซลมาลง ถ้ามีครบจะเกิดการจ้างงาน ดังนั้นถ้าอยากลงทุน คือลงทุนด้านอินฟาสตัรทเจอร์ที่เกี่ยวกับ การท่องเที่ยวก็จะช่วยดึงนักท่องเที่ยวเข้ามา  ส่วนของที่มีอยู่แล้วก็รักษาให้ดีให้คุณภาพอย่าลดลงไป

นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย