"การบินไทย" ไตรมาส 1 ปี 2567 กำไร 2.4 พันล้าน เริ่มทยอยจ่ายหนี้ ตามแผนฟื้นฟู

10 พ.ค. 2567 | 02:30 น.
อัปเดตล่าสุด :10 พ.ค. 2567 | 05:45 น.

การบินไทยประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2567 กำไรพุ่ง 2.4 พันล้าน เริ่มทยอยจ่ายหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ เผยมีรายได้ 45,955 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน กำไรจากการดำเนินงาน11,075 ล้านบาท จากการกลับมาเปิดเส้นทางบินได้เพิ่มขึ้น การปรับปรุงฝูงบิน รวมถึงขายเครื่องบิน

วันนี้(วันที่ 10 พฤษภาคม 2567) นางเฉิดโฉม เทอดสถีรศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงินและการบัญชี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้นำส่งงบการเงินของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย สำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2567 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567 พบว่า มีกำไรสุทธิ จำนวน 2,423 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 10,100 ล้านบาท โดยเป็นกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 2,409,546 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.10 บาท ลดลงจากปีก่อน 4.63 บาทต่อหุ้น (80.8%) โดยมี EBITDA หลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามเงื่อนไขสัญญาเช่าเครื่องบิน รวมค่าเช่าเครื่องบินที่คำนวณจากการใช้เครื่องบินที่เกิดขึ้นจริง (Power by the Hour) เป็นกำไรจำนวน 14,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน

ผลประกอบการ การบินไทย ไตรมาส 1 ปี 2567

ทั้งนี้กำไรที่ลดลงหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน เงินตราต่างประเทศ ขาดทุนจากการด้อยค่าของเครื่องบิน และสินทรัพย์สิทธิการใช้อุปกรณ์การบินหมุนเวียน และถึงแม้จะมีกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ ปรับปรุงรายได้บัตรโดยสารที่หมดอายุ และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม โดยในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 มีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวสุทธิ เป็นค่าใช้จ่ายรวม 4,036 ล้านบาท

ผลประกอบการ การบินไทย ไตรมาส 1 ปี 2567

สรุปสาระสำคัญของงบการเงินของการบินไทย ในไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567

  • ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีเครื่องบินที่ใช้ทำการบินทั้งสิ้น 73 ลำ
  • ในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 บริษัทฯ มีอัตราการใช้ประโยชน์ของเครื่องบินเฉลี่ย 12.8 ชั่วโมง
  • ปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) เพิ่มขึ้น 10.1 %
  •  ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) เพิ่มขึ้น 10.1 %
  • อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Ficเor) เฉลี่ย 83.59 % ใกล้เคียงกับปีก่อน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม
  • มีจำนวนผู้โดยสารที่ทำการขนส่งรวมทั้งสิ้น 3.88 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10.2 %
  • ไตรมาสที่ 1 ปี 2567 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงิน ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว 11,075 ล้านบาท โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 45,955 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 4,448 ล้านบาท (10.7%) สาเหตุหลักเกิดจากรายได้จากการขนส่งผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 3,539 ล้านบาท (10.1%)
  • ในไตรมาสนี้การบินไทยและบริษัทย่อย ให้บริการเที่ยวบินขนส่งผู้โดยสารไนตารางการบินฤดูหนาว ปี 2566-2567 โดยมีเครือข่ายเส้นทางบินให้บริการครอบคลุม 59 จุดบิน ใน 24 ประเทศทั่วโลก โดยเป็น 8 จุดบินในประเทศ (ไม่รวมกรุงเทพมหานคร) และเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินไปยังประเทศจีน ในเส้นทางปักกิ่ง เชี่ยงไฮ้ กวางโจว เฉิงดู คุนหมิง รวมทั้งในเส้นทางบินยอดนิยม อาทิ โอชากาฮ่องกง สิงคโปร์ ไทเป และบริษัทฯยังได้เปิดเส้นทางใหม่บินตรงสู่เมืองอิสตันบูล สาธารณรัฐทูร์เดีย ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา เพื่อรองรับการเดินทางของผู้โดยสาร
  • การบินไทยและบริษัทย่อย มีรายได้จากกิจการอื่น เพิ่มขึ้น 642 ล้านบาท (32.8%) ซึ่งหน่ายธุรกิจส่วนใหญ่มีรายได้เพิ่มขึ้นจากจำนวนเที่ยวบิน และผู้โดยสารของสายการบินลูกค้าที่เพิ่มขึ้น และมีรายได้อื่นๆ เพิ่มขึ้น 868 ล้านบาท
  • ในส่วนของค่าใช้จ่ายมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 34,880 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 6,407 ล้านบาท (22.5%.) โดยเพิ่มขึ้นตามปริมาณการผลิตและ/หรือปริมาณการขนส่ง จำนวนเที่ยวบิน จุดบิน และผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น การอ่อนค่าของเงินบาท รวมทั้งอัตรา ค่าบริการภาคพื้น และราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงินไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว ต่ำกว่าปีก่อน 1,959 ล้านบาท (15.0%)
  • สำหรับต้นทุนทางการเงิน (ซึ่งเป็นการรับรู้ต้นทุนทางการเงินตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 : TFRS 9) จำนวน 4,608 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 1,059 ล้านบาท (29.8%)
  • ในไตรมาสที่ 1 ปี 2567  การบินไทยและบริษัทย่อย มีรายการที่เกิดขึ้นครั้งดียวสุทธิ เป็นค่าใช้จ่ายรวม4.036 ล้านบาท สาเหตุหลักจากการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน เงินตราต่างประเทศ ขาดทุนจากการด้อยค่าของเครื่องบิน และสินทรัพย์สิทธิการใช้อุปกรณ์การบินหมุนเวียน ถึงแม้จะมีกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ ปรับปรุงรายได้บัตร โดยสารที่หมดอายุ และส่วนแบ่งกำไรจากเงิน ลงทุนในบริษัทร่วม

สาระสำคัญการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการของการบินไทย ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2567 ได้แก่

  • การปรับปรุงประสิทธิภาพฝูงบินและขยายเส้นทางบิน : รับมอบเครื่องบินแบบแอร์บัส A350-900 จำนวน 3 ลำ ตามแผนการจัดหาฝูงบินปัจจุบัน เพิ่มความถี่ของเที่ยวบินไปยังฮ่องกง สิงคโปร์ ไทเป กาฐมาณทุ มะนิลา ภูเก็ต ซิดนีย์ โตเกียว (นาริตะ) กลับมาให้บริการไปยังเมืองเพิร์ท ประเทศ ออสเตรเสีย และเมืองโคลัมโบ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศศรีลังกา ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2567 เป็นต้นมา
  •  การหาประโยชน์จากทรัพย์สินรองที่ไม่ใด้ใช้ประโยชน์ในการดำนินธุรกิจ : จำหน่ายเครื่องบินแบบแอร์บัส A340-600 จำนวน 2 ลำ และโบอิ้ง 747-400 จำนวน 1 สำ
  • การปรับปรุงโครงสร้างกลุ่มธุรกิจการบิน : บริษัทฯ ดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างกลุ่มธุรกิจการบิน แล้วเสร็จ โดยรับโอนเครื่องบินแบบแอร์บัส A320-200 จำนวน 4 ลำสุดท้ายจากบริษัท ไทยสมายล์ แอร์เวย์ จำกัด ในเดือนมกราคม 2567 และให้บริการเส้นทางในประเทศเพิ่มเติม ได้แก่ เชียงราย ขอนแก่น อุบลราชธานี กระบี่ หาดใหญ่ และนราธิวาส (ทั้งนี้สำหรับเส้นทางนราธิวาส บริษัทฯ หยุดให้บริการตั้งแต่ วันที่ 31 มีนาคม 2567)

 

 

อนึ่ง ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 บริษัทฯ และบริษัทช่อย มีสินทรัพย์รวมจำนวน 257,110 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 จำนวน 18,119 ล้านบาท (7.6%) หนี้สินรวมมีจำนวน 297,829 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 จำนวน 15,696 ล้านบาท (5.6% ) ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ติดลบจำนวน 40,719 ล้านบาท ติดลบลดลงจาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 จำนวน 2,423 ล้านบาท