ตามที่ประเทศไทยและประเทศอินเดีย ได้มีการประชุมเจรจาสิทธิการบินระหว่างกัน เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และผลการเจรจาครั้งนี้
ทั้งสองฝ่ายได้ข้อตกลงร่วมกันในการเพิ่มจำนวนที่นั่งฝั่งละ 7,000 ที่นั่งต่อสัปดาห์สำหรับเส้นทางบินไปยัง 6 เมืองสำคัญในอินเดีย ได้แก่
โดยสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) หรือ กพท.ได้ประสานสายการบินเพื่อจัดสรรจำนวนที่นั่งที่ได้มาเพื่อให้สามารถทำการบินได้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป และเพื่อให้สายการบินสามารถเร่งดำเนินการทั้งด้านการขออนุญาตทำการบินเข้า และการขอเวลาการทำการบินตามเส้นทางที่ได้รับการจัดสรรจากหน่วยงานฝั่งอินเดีย
รวมทั้งการเตรียมทำการตลาดอย่างเหมาะสมต่อไป โดย CAAT ได้แจ้งผลการจัดสรรและแนวทางเพื่อเตรียมการขอทำการบินเพิ่มเติมในฤดูกาลต่อๆไป
ปัจจุบันจำนวนผู้โดยสารเส้นทางไทย-อินเดีย กลับสู่ระดับใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิด -19 โดยตั้งแต่ช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์เป็นต้นมา มีผู้โดยสารประมาณ 7,000 คนต่อวัน การเพิ่มจำนวนที่นั่งนี้จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้โดยสารจากทั้งสองฝั่งได้อีกประมาณ 2,000 คนต่อวัน
ทั้งนี้ สายการบินของไทยได้รับความนิยมจากผู้โดยสารชาวอินเดีย เนื่องจากเส้นทางบินระหว่างไทยและอินเดียไม่ไกลมากนัก ทำให้สายการบินสามารถใช้ประโยชน์จากอากาศยานได้อย่างเต็มที่โดยการบินในช่วงกลางคืนและกลับมาในช่วงเช้า
อย่างไรก็ตาม การบินระหว่างไทยและอินเดียยังคงต้องมีการเจรจาเพื่อขอเพิ่มจำนวนที่นั่งและเที่ยวบินเป็นระยะ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องดำเนินการต่อไป เพื่อเพิ่มจุดหมายปลายทางและจำนวนผู้โดยสารเข้าออกประเทศไทยตามนโยบาย Aviation Hub ของรัฐบาล
การเพิ่มจำนวนที่นั่งในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาการเชื่อมโยงระหว่างไทยและอินเดีย และจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศอย่างมีนัยสำคัญ