ครม.ไฟเขียวงบกลาง 433 ล้าน ให้ททท. กระตุ้นท่องเที่ยวเร่งด่วนโลว์ซีซัน

06 ส.ค. 2567 | 04:04 น.
อัพเดตล่าสุด :06 ส.ค. 2567 | 06:17 น.

ครม.ไฟเขียวงบกลาง 433 ล้านบาท กระตุ้นท่องเที่ยวเร่งด่วน ช่วงโลว์ซีซันนี้ รมว.เสริมศักดิ์ดัน 2 โครงการ Quick Win ของ ททท. กระตุ้นการท่องเที่ยวผ่าน 9 แพลตฟอร์มออนไลน์ ชื่อดังและมหกรรมเสน่ห์ไทย 5 ภูมิภาค คาดสร้างเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 17,000 ล้านบาท

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผย 2 โครงการของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปิ๊งบประมาณ พ.ศ.ศ. 2567 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวระยะเร่งด่วน (Quick Win)

โดยเตรียมพร้อมจัดโปรโมชันส่งเสริมการขายร่วมกับ 9 แพลตฟอร์มออนไลน์ชื่อดัง และจัดงานมหกรรมเสน่ห์ไทยนำเสนออัตลักษณ์ถิ่น 5 จังหวัดใน 5 ภูมิภาค เร่งสานต่อนโยบายรัฐบาล IGNITE THAILAND's TOURISM คาดสร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจโดยรวมไม่ต่ำกว่า 17,000 ล้านบาท

เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2567 ให้แก่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยรวมถึง 2 โครงการของททท. วงเงินงบประมาณจำนวน 433 ล้านบาท

 

มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวระยะเร่งด่วน (Quick Win) ส่งเสริมการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ตลอดจนกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ได้แก่

  1. โครงการทำการตลาดการท่องเที่ยวไทยผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ในการเสนอชายสินค้าและบริการท่องเที่ยวไทย
  2. โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดด้วยการจัดกิจกรรมบนอัตลักษณ์ถิ่น "มหกรรมเสน่ห์ไทย" ใน 5 ภูมิภาคทั้งนี้ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย นำไปสู่การขยายวันพักและเพิ่มค่าใช้จ่ายทางการท่องเทียว สร้างรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศ

ทั้งนี้ สำหรับโครงการการทำตลาดการท่องเที่ยวไทยผ่าน Platform Online ในการเสนอขายสินค้าและบริการท่องเที่ยวไทย

ททท. เตรียมจับมือกับ 9 ผู้ประกอบการ Online Travel Agency (OTA) ได้แก่

  • Agoda
  • Meituan
  •  MakeMyTrip
  •  Traveloka
  •  Ascend Travel
  •  Trip
  •  TripAdvisor
  •  Klook
  •  Tagthai

 

โดย Online Travel Agency (OTA) จะเสนอโค้ดส่วนลดสำหรับการซื้อสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทยผ่านแพลตฟอร์มในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวเดือนสิงหาคม-กันยายน 2567 เพื่อเพิ่มอัตราการเข้าพักและอัตราการจองห้องพักล่วงหน้าในประเทศไทย ส่งผลต่อการเพิ่มการใช้จ่ายต่อการเดินทาง

หรือ การเพิ่มจำนวนวันเข้าพัก ของนักท่องเที่ยวที่ร่วมโครงการ กระตุ้นการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่งผลทำให้อัตราส่วนการขนส่งผู้โดยสารของสายการบิน (Passenger Load Factor) เพิ่มขึ้น คาดการณ์ว่าจะเกิดการสร้างยอดขายไม่ต่ำกว่า 2,800 ล้านบาท และสร้างการรับรู้จำนวน 500 ล้านคน-ครั้ง

ขณะที่โครงการ"มหกรรมเสน่ห์ไทย" ททท. เตรียมจัดกิจกรรม Event Marketing ครอบคลุมทั้งด้านดนตรี กีฬา ศิลปะ และวัฒนธรรมของประเทศไทยหลากหลายรูปแบบนำเสนอผ่านนวัตกรรมความสร้างสรรค์ ใน 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ

พร้อมมอบสิทธิพิเศษในการเดินทางท่องเที่ยวรูปแบบต่าง ๆ อาทิ ส่วนลด ของที่ระลึก ฯลฯ เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเดือนกันยายน 2567 ได้แก่

งาน Chiangmai Art and Music Festival จังหวัดเชียงใหม่

  • จัดการแสดงดนตรี Unplug Jazz Symphony Orchestra การแสดงเต้นประกอบดนตรี ฯลฯ โดยศิลปินท้องถิ่น และศิลปินที่มีชื่อเสียง กระจายตามจุดต่างๆ ทั่วเมืองเชียงใหม่ อาทิ ประตูท่าแพ อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ วันนิมมาน
  • ตลอดจนประดับตกแต่งซุ้มไฟบนถนนในเมืองเชียงใหม่ และ Art Installation ภายใต้บรรยากาศ"Hamony & Art Performance"

งานเสน่ห์เมืองนคร : Khanom Mindfulness Teritory จังหวัดนครศรีธรรมราช

  • จัดการแสดงดนตรีของศิลปินที่มีชื่อเสียง ร่วมกับการแสดงทางวัฒนธรรม อาทิ การแสดงมโนราห์ การแสดงโขนรามเกียรติ์

กิจกรรม Mindfulness Art & Craft กิจกรรมมหกรรมสายน้ำแห่งกาญจน์เวลา (The River of Time) จังหวัดกาญจนบุรี

  • จัดกิจกรรมตลาดย้อนยุค การแสดงแสงสีเสียง การแสดงทางวัฒนธรรมและดนตรี

งานเสน่ห์อีสานม่วนชื่น ณ ขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น

  • จัดกิจกรรมการแสดงดนตรี วัฒนธรรม ศิลปินหมอลำ นักร้องที่มีชื่อเสียง

เทศกาลดนตรี Chonburi International Music Festival in the Rain จังหวัดชลบุรี

  • ร่วมด้วยศิลปินนักร้องเพลงป๊อป ร็อค R&B ที่มีชื่อเสียง และการออกร้านอาหาร Premium Seaforบริเวณชายหาดพัทยา

ทั้งนี้การจัดงานและกิจกรรมดังกล่าว คาดว่าจะสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวรวมทั้ง 5 พื้นที่ ไม่ต่ำกว่า 750 ล้านบาท