ขีดความสามารถในการแข่งขันของการท่องเที่ยวไทย จากการจัดอันดับของ Travel & Tourism Development (TTDI) ในปี 2567 ที่จัดทำโดย World Economic Forum ในภาพรวมไทยอยู่ในอันดับที่ 47 จาก 119 ประเทศทั่วโลก
ตกจากอันดับที่ 31 ในปี 2562 โดยด้านที่น่ากังวลที่สุด คือ ปัจจัยผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสังคมของการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 106 สะท้อนถึงจุดอ่อนเรื่องของการกระจายรายได้ท่องเที่ยวสู่ชุมชน เนื่องจากการท่องเที่ยวจะกระจุกตัวอยู่ในเมืองหลักเท่านั้น
ประกอบกับปัจจุบันการท่องเที่ยวถือเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย การขับเคลื่อนเมืองน่าเที่ยว (เมืองรอง) จึงเป็นโจทย์สำคัญที่นอกจากรัฐบาลจะออกมาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวและการจัดสัมมนาในเมืองน่าเที่ยวแล้ว
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) อยู่ระหว่างเดินหน้าผลักดันเป้าหมาย 365 วันมหัศจรรย์เมืองน่าเที่ยว เพื่อขานรับนโยบายของรัฐบาลที่วางเป้าหมายให้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ และพลิกฟื้นการท่องเที่ยวไทยสู่มิติใหม่
โดยให้ความสำคัญกับตลาดในประเทศ ผ่านการทำการตลาดเชิงรุกผ่านแคมเปญ “สุขทันที...ที่เมืองน่าเที่ยว” เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในเมืองน่าเที่ยวทั้ง 55 จังหวัดทั่วไทย รวมถึงกระจายการท่องเที่ยวจากเมืองหลักสู่เมืองน่าเที่ยว
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่าแผนการขับเคลื่อนเมืองน่าเที่ยว เพื่อกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวสู่ 55 เมืองน่าเที่ยวนั้น
ททท.ตั้งเป้าหมายตลอดปี 2567 นี้ไว้ว่าจะมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือน (นักท่องเที่ยวพักค้างคืน+นักทัศนาจรไม่พักค้างคืน) ใน 55 เมืองน่าเที่ยว รวม 118 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อน
สร้างรายได้ 375,128 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 40% ซึ่งในขณะนี้จากสถิติของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-พฤษภาคม 2567) ททท.ผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยวเมืองน่าเที่ยวแล้ว 50.71 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 14.51% สร้างรายได้ 144,344.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.98%
ดังนั้นแผนการส่งเสริมเมืองน่าเที่ยวในช่วง 6 เดือนหลังของปีนี้ ททท.ใช้กลยุทธ์ส่งเสริมประสบการณ์ในการเดินทางท่องเที่ยว ภายใต้แคมเปญสุขทันทีที่เที่ยวเมืองรอง (เมืองน่าเที่ยว)
ไม่ว่าจะเป็นการ เปิดตัว Gen Z อย่าง แอลลี่ อชิรญา นิติพน และบอยกรุ๊ป PROXIE เป็นพรีเซ็นเตอร์ มอบประสบการณ์ผ่านทั้งออนไลน์ และ ออฟไลน์ การมุ่งเน้นให้เกิดการเดินทางจริง
รวมถึงเพิ่มการเดินทางท่องเที่ยวในรูปแบบต่างๆ มากขึ้น ทั้งทางรถไฟ และ ทางน้ำ โดยเน้นไปสัมผัสประสบการณ์จริงของนักท่องเที่ยว เช่น จัดโปรโมชั่นกับสายการบินกับโรงแรมหรือรถเช่า
รวมทั้งใช้ Digital Platform เป็นเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์และจัดกิจกรรมนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยว เพื่อสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ทรงคุณค่าประทับใจและแตกต่าง อันจะนําไปสู่การสร้างรายได้ฐานราก ก่อเกิดเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้มั่งคงอย่างยั่งยืน
เมื่อผนวกกับ มาตรการภาษีเมืองน่าเที่ยว ที่นำมาหักลดหย่อนภาษีได้เมื่อเดินทางไปเที่ยวใน 55เมือง ก็คาดว่าจะทำให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้
การผลักดันเมืองน่าเที่ยวททท.จะเน้นทำงานร่วมกับพันธมิตรตลอดครึ่งปีหลังนี้เพิ่มขึ้น อาทิ ดำเนินโครงการ ลดภาษีทันที เมื่อจองที่พักในเมืองน่าเที่ยวกับ Ascendtravel.com ตามมาตรการภาษีกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองน่าเที่ยว 55 จังหวัด ในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวหรือกรีนซีซั่นนี้มีผลถึงวันที่ 30 พ.ย.นี้
การร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรสายการบิน รถเช่า รถไฟ รถEV มอบสิทธิประโยชน์ โปรโมชันพิเศษแก่นักท่องเที่ยว อาทิ วันธรรมดาน่าเที่ยวกับ Bangkok Airways, เที่ยวเมืองรองให้ฉ่ำใจ ฟีลแบบนี้...ปีละครั้ง กับ Air Asia, เที่ยวใต้กับไทย ไลอ้อน แอร์, สุขทันที ขับรถเที่ยวเมืองรองกับ AVIS, สุขทันทีที่เที่ยวกับรถไฟไทย,คาราวานท่องเที่ยวกับ GWM เป็นต้น
รวมถึงร่วมกับพันธมิตรจัดกิจกรรมมอบสิทธิพิเศษสำหรับเครือข่ายผู้ใช้บริการ อาทิ สุขทันทีที่เที่ยวเมืองรองกับ Grab, สุขทันทีเที่ยวกับเมเจอร์, เที่ยวเมืองไทยกับกรุงศรีออโต้, แสตมป์มหัศจรรย์ Wonderful Thailand กับ 7-11
สุขทันทีที่เที่ยวกับโรบินฮู้ด, สุขทันทีที่เที่ยวไทย ฤดูไหนก็สุดฟินกับ Klook, TRUE ชวนชิม, เที่ยวเมืองรองสุขใจ 365 วัน กับ UTU, สุขทันทีที่เที่ยววันธรรมดากับ Lotus’s, Discover Thailand by Amazing Thailand x Freedom World เป็นต้น
พร้อมนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวในเมืองน่าเที่ยวทั่วประเทศ โดยมุ่งเน้นการส่งมอบประสบการณ์ทรงคุณค่า อาทิ 72 เส้นทางสายศรัทธา, 72 เส้นทางเที่ยวหน้าฝน, 72 เส้นทาง 3 วัน 2 คืน, กิจกรรมสร้างประสบการณ์เมืองน่าเที่ยว, เส้นทาง Happy Model หอการค้าไทย, เส้นทางชุมชน อพท., เส้นทางชุมชนต้นแบบกระทรวงวัฒนธรรม เที่ยวชุมชน ยลวิถี เป็นต้น
นอกจากนี้ททท.ยังได้ร่วมกับพันธมิตรจัดแคมเปญและอีเวนต์กระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองน่าเที่ยวทั้ง 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ ได้แก่
ภาคเหนือ อาทิ
ภาคอีสาน อาทิ
ภาคกลาง อาทิ
ภาคตะวันออก อาทิ
ภาคใต้ อาทิ
นอกจากนี้ ททท. กำลังดำเนินการรวบรวมคลังข้อมูล ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ www.เมืองน่าเที่ยว.com ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูล แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว โดยแบ่งข้อมูลออกเป็นกลุ่มจังหวัด คัดเฉพาะไฮไลท์สถานที่อันซีน อาหารรสเด็ด รวมสถานที่เวิร์กช็อป
รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวของคนยุคใหม่ พร้อมมีคอนเทนต์กิจกรรมให้ร่วมสนุกพร้อมชิงของรางวัลมากมาย โดยจะเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้
สำหรับในปี 2568 ททท. จะสานต่อการส่งเสริมเมืองน่าเที่ยว โดยใช้ City Marketing ค้นหาจุดขาย พลิกมุมมอง บอกเล่าเรื่องราว “เสน่ห์ไทย” ของแต่ละพื้นที่ สร้างความแตกต่างและโดดเด่น
สร้างทางเลือกที่หลากหลายให้กับนักท่องเที่ยวได้เลือกเดินทางไปสัมผัสตามรสนิยมของแต่ละคน ภายใต้จุดขายแต่ละภาค เชื่อมโยงกันทั้งภูมิภาค หมุนเวียนกันไปจากเมืองสู่เมือง จากภาคสู่ภาค
ทำให้ประเทศไทยเป็นไฮซีซันตลอดทั้งปี (365 วันมหัศจรรย์เที่ยวเมืองรอง) โดยตั้งเป้าหมายเมืองน่าเที่ยว 2568 ไว้ว่าจะเพิ่มจำนวนผู้เยี่ยมเยือนในเมืองน่าเที่ยวขึ้นอีก 4 % จากปี 2567 และสร้างรายได้เพิ่มอีก 7.5% จากปี 2567 นางสาวฐาปนีย์ กล่าวทิ้งท้าย