ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเที่ยวไทยแล้วกว่า 4.89 ล้านคน (วันที่ 1 ม.ค.-8 ก.ย.2567) เมื่อดูจากโมเมนตั้มในขณะนี้มีโอกาสที่ในปี 2567 นี้จะถึง 7-8 ล้านคน แม้อาจจะกลับมายังไม่เท่ากับปีก่อนเกิดโควิด-19 ก็ตามแต่ก็มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง ท่ามกลางพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีนที่เปลี่ยนไปจากเดิม แอตต้า แนะบริษัททัวร์ต้องปรับตัว รับตลาดจีนที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
ล่าสุด สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) ได้ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดโรดโชว์นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย กว่า 50 ราย เดินทางไปเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการจีนกว่า 900 บริษัท ใน 2 มณฑล ได้แก่ กว่างโจว และปักกิ่ง เพื่อฟื้นความเชื่อมั่น และกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเที่ยวไทยต่อเนื่องถึงปีหน้า
นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า การเดินทางมาโรดโชว์ครั้งนี้ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยได้เจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการจีนร่วมมากกว่า 900 บริษัท
โดยเมืองกว่างโจว มีผู้ประกอบการท่องเที่ยวจีนเข้าร่วม 480 ราย และเมืองปักกิ่ง มีผู้ประกอบการท่องเที่ยวของจีนเข้าร่วม 420 ราย ซึ่งการพบปะของผู้ซื้อ ผู้ขายกันครั้งนี้ จะส่งผลให้เกิดการซื้อขายสินค้าท่องเที่ยวในปี 2568 ขณะที่ในปีนี้คาดว่า จะมีนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทย 7.5 ล้านคน
สถานการณ์หลังโควิด-19 ตลาดนักท่องเที่ยวจีนได้เปลี่ยนพฤติกรรมการท่องเที่ยวไปจากก่อนเกิดโควิด ที่น่าสนใจ พบว่า อายุเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวจีนลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 22-45 ปี นิยมเลือกหาสินค้าท่องเที่ยวผ่านระบบออนไลน์ และไม่นิยมการท่องเที่ยวผ่านบริษัททัวร์เหมือนในอดีต ทั้งยังเน้นเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองหรือเที่ยวเป็นกลุ่มเล็ก ทำให้บริษัททัวร์ทั้งฝ่ายจีนและไทยต้องปรับตัวอย่างมาก
"บริษัททัวร์ตอนนี้ต้องทำงานร่วมและรับลูกค้าต่อจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวในระบบออนไลน์ หรือ Online travel agent : OTA หรือปรับเปลี่ยนกรุ๊ปทัวร์ให้มีขนาดเล็กลงประมาณ 5-6 คน เปลี่ยนจากการใช้รถทัวร์มาใช้รถตู้แทน เปลี่ยนจากพาไปแหล่งท่องเที่ยวเดิม ๆ มาเป็นสถานที่ใหม่ ๆ ให้สอดรับกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีนที่นิยมเช็คอินผ่านออนไลน์ เป็นต้น ตอนนี้กำไรน้อยลง ทำงานเยอะขึ้น แต่หากไม่ปรับตัวก็อยู่ในธุรกิจนี้ไม่ได้" นายศิษฎิวัชร กล่าวทิ้งท้าย
นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมแอตต้า กล่าวยอมรับว่า โควิด-19 ได้กวาดบริษัททัวร์ล้มหายตายจากไปเป็นจำนวนมากไม่ว่าจะฝั่งไทยหรือฝั่งจีน ขณะนี้บริษัททัวร์ยักษ์ใหญ่ของจีนปิดตัวไปหมด และมีบริษัทใหม่ ๆ เกิดขึ้น หรือบริษัทที่อยู่ได้กลายเป็นบริษัทขนาดเล็ก ซึ่งก็ต้องการสินค้าท่องเที่ยวใหม่ ๆ ของไทย
โดยก่อนเดินทางมาโรดโชว์ครั้งนี้ ทางฝ่ายจีนแจ้งความประสงค์มาเลยว่า ขอให้นำสินค้าใหม่ ๆ มาเสนอขาย จึงจะเห็นว่า ผู้ประกอบการของไทยที่ได้รับการตอบรับอย่างดี เช่น บริษัท สีสัน อินเตอร์ ทราเวล จำกัด ที่นำเสนอการท่องเที่ยวแบบคาราวานรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ บริษัท Find Folk เสนอขายกิจกรรมท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และอ่าวนาง กระบี่ที่นักท่องเที่ยวจีนยังไม่ค่อยรู้จัก เป็นต้น
ในด้านการส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวจีน ของททท.ใน 2 มณฑลนี้ นายบุญรพี ดำรงรัตน์ ผู้อำนวยการททท. สำนักงานกว่างโจว กล่าวว่า จุดเด่นของนักท่องเที่ยวจีน โดยเฉพาะจากมณฑลกวางตุ้ง (มีกว่างโจวเป็นเมืองหลวง) เมื่อเปรียบเทียบกับมณฑลอื่น ๆ ของจีน พบว่า มีการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยสูงสุด เนื่องจากไทยได้เปรียบทางด้านภูมิศาสตร์ ใช้เวลาเดินทางเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น และหลังจากไทยออกมาตรการวีซ่าฟรี ยิ่งทำให้สะดวกและสามารถเดินทางได้ง่ายมากขึ้น
และที่น่าสนใจสำหรับตลาดนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มนี้ คือ เป็นกลุ่มคนที่มีความมั่งคั่ง มีรายได้ต่อครัวเรือนอยู่ในระดับที่สูงมาก จึงชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบคุณภาพ นิยมจองผ่านระบบออนไลน์ อยากออกไปเที่ยวก็ไปเลยไม่จำเป็นต้องเป็นวันหยุดยาวจะเน้นความสะดวกของตัวเองเป็นหลัก
นอกจากนี้ในปี 2568 จะครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและจีน นายฉัตรชัย วิริยเวชกุล เอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง ได้กล่าวว่า เนื่องในวาระพิเศษดังกล่าวนี้ทั้งไทยและจีนจึงได้ร่วมจัดกิจกรรมเพื่อฉลองความสัมพันธ์ดังกล่าวตั้งแต่เดือนกันยายนนี้
โดยทาง ททท.เตรียมจัดกิจกรรมภายใต้โครงการ "Nihao Month" (หนีห่าว มันท์) ให้แก่นักท่องเที่ยวจีนโดยจะได้รับส่วนลดในการซื้อสินค้าที่ร้านที่มีป้าย Nihao Month พร้อมกันนี้ได้เชิญชวนให้ชาวจีนเดินทางเข้ามาสัมผัสจังหวัดที่เป็นเมืองน่าเที่ยวอื่น ๆ ของไทย นอกเหนือไปจากกรุงเทพฯ เชียงใหม่และภูเก็ต
ทั้งนี้ คาดว่า ภายในสิ้นปีนี้ประเทศไทยจะต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนรวมประมาณ 7-8 ล้านคน เช่นเดียวกับจำนวนนักท่องเที่ยวไทยที่มาจีนเชื่อว่าในปีนี้จะมีเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน เนื่องจากคนไทยชื่นชอบสถานที่ท่องเที่ยว อากาศ และอาหารของจีน รวมทั้งวัฒนธรรมที่มีความเป็นมายาวนาน มีความหลากหลายในแต่ละท้องถิ่น
"การท่องเที่ยวระหว่างไทยและจีนเป็นไปในลักษณะแลกเปลี่ยนแบบทั้งสองฝ่าย มั่นใจว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยและจีนมีอนาคตที่สดใสร่วมกัน" นายฉัตรชัย กล่าวทิ้งท้าย
หน้า 10 ฉบับ 4,027 วันที่ 15 - 18 กันยายน พ.ศ. 2567