นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
เผยว่าการส่งออกชายแดนยังขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 คิดเป็นมูลค่า 54,643 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.50% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน แต่การส่งออกผ่านแดนปรับตัวลดลงเนื่องจากผู้ส่งออกหันกลับไปขนส่งสินค้าทางเรือและทางอากาศเพิ่มขึ้นจากค่าระวางเรือที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องดังนั้นการค้าผ่านแดนและการค้าชายแดนมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,450,310 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.74% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 855,839 ล้านบาท ลดลง 0.66% และการนำเข้ามูลค่า 594,471 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.41% โดยไทยได้ดุลการค้าในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2565 ทั้งสิ้น 261,368 ล้านบาท
ส่วนการค้าชายแดนและผ่านแดน เดือนตุลาคม 2565 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 144,477ล้านบาท ลดลง 2.92% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 81,937 ล้านบาท ลดลง 0.17% และการนำเข้ามูลค่า 62,540 ล้านบาท ลดลง 6.31% โดยไทยได้ดุลการค้าในเดือนตุลาคม 2565 ทั้งสิ้น 19,397 ล้านบาท
ทั้งนี้ไทยการค้าชายแดนกับ 4 ประเทศ (มาเลเซีย กัมพูชา เมียนมา และสปป.ลาว) ซึ่งเดือนตุลาคม 2565 มีมูลค่าการค้ารวม 87,297 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.59% โดยการส่งออกไปกัมพูชาและ สปป.ลาว ยังคงขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนที่ผ่านมา และการส่งอกไปเมียนมากลับมาขยายตัวอีกครั้ง ดังนี้
ส่วนการค้าผ่านแดนไปประเทศที่สาม (จีน เวียดนาม สิงคโปร์และประเทศอื่นๆ) เดือนตุลาคม 2565 มีมูลค่ารวม 57,180 ล้านบาท ลดลง 11.42% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 27,293 ล้านบาท ลดลง 8.36% และการนำเข้ามูลค่า 29,887 ล้านบาท ลดลง 14.04% โดยการส่งออกผ่านแดนไปเวียดนามยังคงขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนที่ผ่านมา ดังนี้
“ปัจจัยสนับสนุนการส่งออก เงินบาทยังคงอ่อนค่า ช่วยให้สินค้าไทยยังสามารถแข่งขันด้านราคาได้ ความต้องการน้ำมันเชื้อเพลิงของประเทศเพื่อนบ้านยังคงอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงของไปยังสปป.ลาว และเมียนมา ขยายตัวรวมถึงผลักดันการเปิดจุดผ่านแดนเพื่อขนส่งสินค้าล่าสุด โดยล่าสุดมีด่านเปิดให้บริการแล้ว97แห่ง เป็นจุดผ่านแดนไทย71แห่ง และด่านประเทศเพื่อนบ้าน63แห่ง"