อุดรธานีบูม‘เกษตรแฟร์ลุ่มนํ้าโขง’ นำร่องพืชสวนโลก 

ระหว่างวันที่ 10-19 มี.ค. 2566 นี้ ที่บริเวณทุ่งศรีเมืองอุดรธานี หอการ ค้าจังหวัดอุดรธานี ร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน 16 องค์กรในพื้นที่ รวมพลังจัดงานเกษตรแฟร์ลุ่มนํ้าโขง@UDON 2023 ขึ้น เป็นปีที่ 2 เพื่อสร้างโอกาสทางตลาดให้กับสินค้าเกษตรคุณภาพ ขับเคลื่อนภาคเกษตรด้วย BCG Economy Model ภายใต้แนวคิด “เกษตรลุ่มนํ้าโขง เชื่อมโยงวิถีชีวิต เชื่อมโยงเศรษฐกิจโลก” Agri Trade & Tech of Mekong

นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า การที่หอการค้าจังหวัดอุดรธานี องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)อุดรธานี เทศบาลนครอุดรธานี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน ภาคีเครือข่ายสถานศึกษา ร่วมกันบูรณาการ จัดงานนี้ขึ้นมา ช่วยกระตุ้นผู้ประกอบการ ให้เตรียมพร้อมเรื่องผลิตภัณฑ์ต่างๆ ส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีท้องถิ่นในพื้นที่

รวมถึงเพื่อเตรียมซักซ้อมรองรับผู้ที่จะเดินทางมาชมงานมหกรรมพืชสวนโลก ที่จังหวัดอุดรธานีได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพในปี 2569 ภายใต้แนวคิดความหลากหลายแห่งสรรพชีวิต: สายสัมพันธ์แห่งนํ้า พืชพรรณ และผู้คนสู่การดำรงชีวิตที่ยั่งยืน ซึ่งสะท้อนถึงเอกลักษณ์ความเป็นพื้นที่ชุ่มนํ้าของจังหวัดอุดรธานี ที่สร้างความเชื่อมโยงระหว่างสายนํ้า ทรัพยากรธรรมชาติ และผู้คนในท้องถิ่นเข้าไว้ด้วยกัน ชูความหลากหลายทางชีวภาพสู่สายตาชาวโลก

หลังเสร็จงานมหกรรมพืชสวนโลกดังกล่าวแล้ว ทางจังหวัดอุดรธานีมีแผนจะอนุรักษ์พื้นที่ เพื่อใช้ประโยชน์ต่อเนื่อง ใช้เป็นศูนย์จัดแสดงนิทรรศการ ประเพณีวัฒนธรรม และศูนย์ กลางกีฬานานาชาติ ของกลุ่มอนุภาคลุ่มนํ้าโขงและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จะเกิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่ในจังหวัด สร้างรายได้ให้จังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียงต่อไป

นายสวาท ธีระรัตนนุกูลชัย รองประธานกรรมการหอการค้าไทย (ภาคอีสาน) และประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า การจัดงานเกษตรแฟร์ฯขึ้น เพื่อแสดงศักยภาพการพัฒนาด้านการเกษตรของไทย เพื่อตอบสนองนโยบายรัฐบาล ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจแบบ BCG หรือการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม 3 มิติ ได้แก่ เศรษฐกิจชีวภาพ (Bio economy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) ซึ่งเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคม และการรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างสมดุล

งานนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการรายย่อย ธุรกิจ SME รวมไปถึงภาคธุรกิจต่างๆ ในอุดรธานี มีโอกาสได้พัฒนาสินค้า ทั้งทางด้านการเกษตร ผลิตภัณฑ์แปรรูป นวัตกรรม สินค้าอุปโภค-บริโภค เพิ่มช่องทางทางการตลาด การเจรจาธุรกิจ และส่งเสริมการขยายตัวของธุรกิจเกษตร และอุตสาหกรรมเกษตรขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) กระตุ้นการหมุนเวียนและขับเคลื่อนการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของพื้นที่อย่างดี โดยในปี 2565 มีผู้เข้าชมงานถึง 600,000 คน หรือโดยเฉลี่ยวันละ 60,000 คน เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนกว่า 300 ล้านบาท

ด้านนายวันชัย อนุตรชัชวาลย์ ประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ครั้งนี้จัดเป็นปีที่ 2 เนื่องจากครั้งแรกมีกระแสตอบรับอย่างดีจากคนอุดรธานี พื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงจากสปป.ลาว งานปีนี้จึงได้เชิญผู้ประกอบการ SME หน่วยงานการเกษตรกรรม จากสปป.ลาว มาร่วมออกบูธ แสดงนิทรรศการและจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง และการเกษตรกรรมด้วยเช่นเดิม

งานนี้จะช่วยพัฒนาระบบตลาดสินค้าเกษตรคุณภาพ เป็น การเผยแพร่และสร้างโอกาสให้กับเกษตรกรในจังหวัดอุดรธานี จังหวัดใกล้เคียง และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในภาคเกษตร และอาหารของไทย ในการเรียนรู้ และการพัฒนาด้านการตลาด การเพิ่มทักษะการพัฒนา รูปแบบสินค้า/ผลิตภัณฑ์ รวมทั้งการสร้างนวัตกรรม และการบริหารจัดการสินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาด และผู้บริโภค

การส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดอุดรธานี สร้างการรับรู้ให้กับจังหวัดอุดรธานีรวมไปถึงการสร้างการรับรู้ให้กับคนทั้งประเทศที่เป็นเมืองไมซ์ซิตี้ โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ องค์กรพันธมิตร และเครือข่าย สถาบันการศึกษา ที่เกี่ยวข้องจำนวน 16 องค์กร/แห่งในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี

นายวันชัย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ปัจจุบัน สถานการณ์หลังจากการแพร่ระบาดของโรคโควิค-19 มากว่า 3 ปี ได้คลี่ คลายลง ประชาชน ผู้คน ผู้ประกอบการ SMEs ฟื้นตัวกลับคืนมาแล้ว จึงคาดว่าในงาน เกษตรแฟร์ ลุ่มนํ้าโขง @Udon 2023 ใน ระหว่างวันที่ 10-19 มีนาคม 2566 ที่จังหวัดอุดรธานี จะมีประชาชนทั้งในจังหวัดอุดรธานี ใกล้เคียงและจากประเทศ สปป.ลาว เข้าร่วมชมงานไม่น้อยกว่าวันละ 80,000 คน จะสร้างรายได้หมุนเวียนได้ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท 

ยงยุทธ ขาวโกมล/รายงาน

หน้า10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,868 วันที่ 9-11 มีนาคม พ.ศ.2566