นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์เปิดเผยว่า กรมปศุสัตว์ได้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการติดตามสืบสวนทางลับอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์เถื่อน ซึ่งมีความผิดตามพ.ร.บ. โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ล่าสุดได้ข้อมูลว่า มีห้องเย็นแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสาครอาจซุกซ่อนเนื้อสุกรที่ลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ
เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจกองสารวัตรและกักกันจึงเข้าตรวจสอบห้องเย็นดังกล่าวโดยประสานงานกับเจ้าหน้าที่ศุลกากรพื้นที่ ผลการตรวจสอบพบเนื้อ เครื่องใน และชิ้นส่วนตัดแต่งสุกรแช่แข็ง 5 รายการซึ่งข้างกล่องระบุต้นทางการผลิตจากประเทศอิตาลี เยอรมนี และบราซิล ซึ่งสงสัยว่าลักลอบนำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมปศุสัตว์ น้ำหนักรวม 10,458 กิโลกรัม
เบื้องต้นพนักงานเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบเอกสารการขออนุญาตนำเข้าซากสัตว์ เอกสารการขออนุญาตเคลื่อนย้ายซากสัตว์ และเอกสารรับรองสุขศาสตร์ซากสัตว์ ผู้ประกอบการห้องเย็นยังไม่สามารถนำมาแสดงได้ จึงอายัดของกลางทั้งหมดไว้ รวมถึงเก็บตัวอย่างจากเนื้อและเครื่องในสุกรที่อายัดได้ ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อหาเชื้อโรคระบาดสัตว์และสารตกค้างที่อาจติดมากับสินค้าดังกล่าว
จากนั้นไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร พร้อมทั้งแจ้งให้เจ้าของสินค้านำเอกสารที่เกี่ยวข้องมาแสดงภายใน 15 วันทำการ หากไม่นำเอกสารมาแสดงจะร้องทุกข์กล่าวโทษตามพ.ร.บ. โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 มาตรา 22 ห้ามมิให้ผู้ใดเคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์เข้าเขตเฝ้าระวังโรคระบาดสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษตามมาตรา 65 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 31 ผู้ใดนำเข้าส่งออกหรือนำผ่าน ต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายทุกครั้งที่นำเข้า ส่งออกหรือนำผ่านราชอาณาจักร บทกำหนดโทษ มาตรา 68 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมากรมปศุสัตว์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าสัตว์มีชีวิตและเนื้อสัตว์เถื่อนเข้ามาในราชอาณาจักรอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการแพร่ของโรคระบาดสัตว์ ตลอดจนช่วยลดความเสี่ยงที่ประชาชนจะบริโภคสินค้าปศุสัตว์ที่ไม่มีคุณภาพและไม่ได้มาตรฐาน
รวมถึงเป็นการปกป้องเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ไม่ให้เนื้อสัตว์เถื่อนมาแทรกแซงราคาหรือทำลายกลไกการตลาดภายในประเทศอย่างไม่เป็นธรรม พร้อมทั้งกำชับให้ด่านกักกันสัตว์ทุกแห่งและเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัด ปศุสัตว์อำเภอในทุกพื้นที่ ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตรวจสอบสถานที่จำหน่ายเนื้อสัตว์ทั่วประเทศอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง หากพบผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ. โรคระบาดสัตว์ให้บังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด
หากประชาชนต้องการแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดกฎหมายด้านปศุสัตว์ หรือข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอหรือสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดใกล้บ้าน หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ โทร. 063-225-6888 หรือสารวัตรปศุสัตว์ไซเบอร์ โทร. 02-501-3473 หรือแจ้งผ่าน Application : DLD 4.0 ได้ตลอดเวลา