เมื่อวันที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา กรมการค้าภายใน ได้ประชุมหารือร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมส่งเสริมการเกษตร สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย และสมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร โดยเห็นตรงกันที่จะจัดทำ “โครงการเชื่อมโยงปุ๋ยราคาถูกให้แก่เกษตรกร” ระยะที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-30 มิ.ย.2567 ต่อเนื่องจากเฟส 2 ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 มี.ค.2567
นายเปล่งศักดิ์ ประกาศเภสัช นายกสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า "ทางสมาคม ฯ ยินดี พร้อมให้ความร่วมมือกับฝ่ายราชการเพราะเป็นนโยบายที่ดี ซึ่งกรมการค้าภายใน เปิดให้ทำด้วยความสมัครใจ หากใครไม่ร่วมก็ไม่เป็นไร เมื่อให้วิธีนี้มา ผมคิดว่าหลายบริษัทคงให้ความร่วมมือ แม้อาจมีบางรายเดือดร้อน เนื่องจากแต่ละช่วงที่นำปุ๋ยเข้ามา และต้นทุนการซื้อของแต่ละบริษัทก็แตกต่างกัน รวมทั้งช่องทางการติดต่อมีความหลากหลายมีทั้งรายใหญ่ รายกลาง และรายเล็ก การซื้อปุ๋ยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยยูเรีย โปแตสเซียม และฟอสเฟต รวมทั้งแม่ปุ๋ย N P K " นายเปล่งศักดิ์ กล่าวและว่า
ในหลักการของสมาคม ฯ ผมรับปากไปว่าเรายินดีที่จะให้ความร่วมมือ เพื่อให้โครงการทางด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลทั้งแนวทางกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำไปทำประโยชน์ให้กับเกษตรกร ซึ่งจะต้องให้ทาง กรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมส่งเสริมการเกษตร โดยเกษตรกรจะต้องซื้อผ่านสถาบันเกษตรกรที่ตนเป็นสมาชิก โดยสถาบันเกษตรกรจะเป็นผู้รวบรวมยอด การสั่งซื้อแจ้งไปยังสำนักงานเกษตรจังหวัด สำนักงานเกษตรอำเภอ หรือสำนักงานสหกรณ์จังหวัด ในแต่ละพื้นที่
อย่างไรก็ดี เกษตรกรที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสถาบันเกษตรกรอยู่ในขณะนี้ก็สามารถรวมกลุ่มกันซื้อ หรือไปซื้อปุ๋ยจากสถาบันเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ เพื่อแจ้งยอดปริมาณการสั่งซื้อ เพื่อส่งมอบต่อไป
นายกสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย กล่าวต่อ ว่าเมื่อรับนโยบายจากกระทรวงพาณิชย์มาแล้วจะส่งหนังสือแจ้งไปยังสมาชิกในสมาคม เพื่อรวบรวมรายชื่อว่าบริษัทไหนสนใจที่จะเข้าร่วมโครงการนี้บ้าง คาดว่าสูตรปุ๋ยมากกว่า 48 สูตร จะมีการลดราคาส่วนลดต่ำสุดราคา 20 ราคา สูงสุด 50 บาท/กระสอบ คลุมทุกพืช (โครงการก่อนหน้านั้น ลดขั้นต่ำสุด 10 บาท สูงสุด 50 บาท/กระสอบ) ก็ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร ในการรวบรวมข้อมูลและประมวล สถานการณ์โลก ค่าเงินบาท ค่าน้ำมันดิบ รวมทั้งความผันผวนต่างๆ ค่าขนส่งทางเรือ ที่ขึ้นอยู่แต่ละบริษัทจะรับความเสี่ยงได้ไหม โดยกระทรวงพาณิชย์ให้หลักการไปคุยกันเอง แล้วนำมาเสนอในภายหลัง ดังนั้นใครพร้อมก็มาร่วมได้ โดยรัฐบาลไม่ได้บีบบังคับให้เป็นภาคสมัครใจ
“ที่ผ่านมามีเกษตรกรมาร้องเรียนว่าจะต้องได้ราคานั้นราคานี้ โดยไม่ผ่านสถาบันเกษตรกร ก็เป็นลักษณะที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่มีโครงการ โดยทางสมาคมมีมติจะไม่รับคำร้อง และพยายามแนะนำให้ไปร้องที่หน่วยงานราชการที่ร่วมโครงการก็ไม่ไป แต่กลับไปร้องทางกรรมาธิการต่างๆ แล้วจะให้ผมทำอย่างไร ในเมื่อตัวเกษตรกรไม่ทำตามเงื่อนไข"
อนึ่ง โครงการลดราคาปุ๋ย เป็นหนึ่งในนโยบาย Quick Win 99 ของกระทรวงพาณิชย์ ที่ใช้ดูแลเกษตรกร