จากพฤติกรรมของผู้บริโภคและเทรนด์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้เกิดนวัตกรรมอาหารใหม่ ๆ ที่เรียกว่า อาหารอนาคต (Future Food) ทั้งนี้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการส่งออกที่ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 350,000 ล้านบาท ภายในปี 2570 ในช่วงที่ผ่านมาได้มีการหารือของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดคำนิยาม การจัดกลุ่มอาหารอนาคต และเป้าหมายการส่งออกเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน และมีเป้าหมายเดียวกัน
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา นายกสมาคมการค้าอาหารอนาคตไทย และนายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ล่าสุดหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องได้กำหนดนิยามอาหารอนาคตไทย หรือ Future Food หมายถึง อาหารที่ปลอดภัยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ตอบสนองวิถีชีวิตของคนในโลกยุคใหม่ มีกระบวนการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมตอบโจทย์ความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ได้พิจารณาจากมุมมองด้านสุขภาพและสังคม (Future Well-being), ความยั่งยืน (Sustainability), นวัตกรรม(Innovation) จึงได้แบ่งหมวดหมู่อาหารอนาคตออกเป็น 4 กลุ่ม คือ 1.อาหารฟังก์ชั่น และสารประกอบเชิง ฟังก์ชันอาทิ สารสกัด Nutrition adjustment ผลิตภัณฑ์โพรไบโอติก เป็นต้น 2.อาหารทางการแพทย์ และอาหารเฉพาะบุคคล อาทิ อาหารผู้ป่วยเฉพาะโรค อาหารสำหรับผู้สูงวัย
3.อาหารอินทรีย์ อาทิ ผลิตผลอินทรีย์ พืช ผักธัญพืช ผลไม้ และ ผลิตภัณฑ์อาหารอินทรีย์ และ 4.อาหารโปรตีนทางเลือก อาทิ Plant based, Insect based, Microbial based, Algae based และ Novel food เช่น กลุ่มเนื้อเพาะเลี้ยง Cultured meat เป็นต้น
“จากนิยามอาหารอนาคตใหม่และการจัดกลุ่มอาหารอนาคตจะทำให้เห็นภาพที่ชัดขึ้นในการส่งเสริมและผลักดันอาหารอนาคต ซึ่งจะเห็นได้ว่าอาหารอนาคตมีความหลากหลาย และเห็นได้มากขึ้นในท้องตลาด ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา ไทยส่งออกฟิวเจอร์ฟู้ด มูลค่าราว 1.43 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งอาหารอนาคตคิดเป็นสัดส่วน 9% ของการส่งออกอาหารไทยในภาพรวม”
สำหรับกลุ่มสินค้าอาหารอนาคตที่มีมูลค่าการส่งออกมากที่สุดคือ อาหารฟังก์ชั่นและสารประกอบเชิงฟังก์ชั่นมีมูลค่า 1.28 แสนล้านบาท เติบโต 1% และมีสัดส่วน 89.5% ของการส่งออกอาหารอนาคตทั้งหมด รองลงมาคือ อาหารโปรตีนทางเลือกมีมูลค่า 6,500 ล้านบาท เติบโต 1% และมีสัดส่วน 4.6% ของการส่งออกอาหารอนาคต
ตลาดส่งออกสำคัญของอาหารอนาคตไทย ปี 2566 ได้แก่ กลุ่มประเทศอาเซียน สัดส่วน 43% ของการส่งออก ตามด้วยสหรัฐอเมริกา สัดส่วน 14% สหภาพยุโรป (EU 27 ประเทศ) และสหราชอาณาจักรสัดส่วน 11% และจีนสัดส่วน 10.3%
สำหรับในปี 2567 นี้คาดการมูลค่าส่งออกอาหารอนาคตของไทยจะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 2-3%หรือมีมูลค่า 1.46-1.48 แสนล้านบาท มีปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น โดยมีปัจจัยความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์เป็นปัจจัยเสี่ยง แต่จากสินค้าอาหารเป็นสินค้าจำเป็น และอาหารอนาคตตอบโจทย์ผู้บริโภคในเรื่องของสุขภาพและความยั่งยืนจึงคาดจะส่งออกได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีนี้