นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย และกรรมการคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่กรมการค้าภายใน ในฐานะเลขานุการ นบข. แจ้งเลื่อนประชุมออกไปไม่มีกำหนด
จากเดิมต้องประชุมวันพรุ่งนี้ (วันที่ 21 พ.ค.67) ดังนั้นจึงขอแจ้งให้พี่น้องชาวนาทั้งประเทศทราบ หากจะมีประชุมวันใดจะรีบแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ซึ่งการแจ้งเลื่อนการประชุมครั้งนี้ยังไม่ทราบสาเหตุ
ขณะที่ นายเปล่งศักดิ์ ประกาศเภสัช นายกสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย กล่าวถึง นโยบายปุ๋ยคนละครึ่ง ที่รัฐบาลได้กำหนด 2 สูตรปุ๋ยในโครงการ “ปุ๋ยคนละครึ่ง” งบประมาณ 3.3 หมื่นล้านบาท โดยเกษตรกรมีส่วนร่วมสมทบค่าปุ๋ยครึ่งราคา ที่คาดจะต้องจ่ายอีกครึ่งหนึ่งรวมประมาณกว่า 3 หมื่นล้านบาท รวม 2 ส่วน คาดใช้เงินกว่า 6 หมื่นล้านบาท ได้แก่ ปุ๋ยสูตร 20-8-20 เหมาะสำหรับข้าวที่ไวต่อช่วงแสง และปุ๋ยสูตร 25-7-14 เหมาะสำหรับข้าวไม่ไวต่อช่วงแสง
“ในฐานะนายกสมาคมฯ ผมได้แจ้งสมาชิกทุกบริษัทให้ไปจดทะเบียนปุ๋ย 2 สูตรนี้ โดยให้เหตุผลว่าคุณเป็นนักธุรกิจ และสูตรปุ๋ยรัฐบาลก็ให้การรับรอง แต่ก็มีสมาชิกบางคนก็ถามว่าเสี่ยงขาดทุนไหม ผมก็บอกไปว่าการค้าปกติก็เสี่ยงอยู่แล้ว แล้วนี่รัฐบาลชี้ช่องให้คุณร่วมขาย แค่ไปเพิ่มจดสูตรปุ๋ย ซึ่งทางกรมวิชาการเกษตร ได้แจ้งว่าหากบริษัทไหนจะมาจด 2 สูตรนี้ก็ยินดี และจะเร่งให้เป็นกรณีพิเศษอีกด้วย”
นายเปล่งศักดิ์ กล่าวว่า สมมติหากรัฐบาลมุ่งหวังจะหาผลประโยชน์จากงบประมาณในเรื่องนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องมาบอกสมาคมฯอาจจะปกปิดไว้ก็ได้ แล้วแอบเปิดประมูลเลย ถ้าทำอย่างนี้ก็ทุจริตแน่นอน แต่นี่ไม่ใช่เพราะมีการประกาศอย่างเป็นทางการเพื่อให้ผู้ประกอบการได้ไปจดทะเบียนสูตร เพื่อให้ทุกบริษัท ไม่ว่ารายเล็ก รายใหญ่ มีโอกาสเท่าเทียมกัน ดังนั้นใครที่ยังไม่ได้ไปจดทะเบียน 2 สูตรนี้ต้องเร่งโดยเร็ว
“แต่วันนี้เรายังไม่รู้งบประมาณ แล้วรัฐจะดำเนินโครงการจริงหรือไม่ แล้วต่อไป 2 สูตรเคมีปุ๋ยจะส่งเสริมใช้จริงตลอดไปหรือไม่ และต้องจัดแปลงทดลองให้เกษตรกรดู และจากการสอบถามเกษตรกรหลายคน ถ้ารัฐบาลให้ปุ๋ยราคาถูกจะใช้หรือไม่ เกษตรกรตอบเอาเพื่อทดลอง แล้วจะแบ่งเงินไปซื้อปุ๋ยเคมีที่เชื่อมั่นว่าจะได้ผลผลิตแน่นอน เพื่อป้องกันความเสี่ยงไว้ด้วย”