วันนี้ (28 พฤษภาคม 2567) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีการเปิดประมูลข้าว 10 ปี ที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) ออกใบประกาศขอบเขตและรายละเอียด (TOR) เรื่อง การจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเป็นการทั่วไป โดยให้ผู้ประมูลดูตัวอย่างข้าวทางกายภาพด้วยสายตา เพื่อประกอบการพิจารณาเสนอราคาซื้อข้าวในคลังสินค้าเท่านั้น ไม่อนุญาตให้นำตัวอย่างข้าวออกนอกคลังสินค้า หรือดำเนินการตรวจสอบด้วยวิธีอื่นใดกับข้าวในคลังสินค้า ว่า "ตนยังไม่เห็นรายละเอียด"
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเกิดข้อกังขาหรือไม่ นายชัยกล่าวว่า คนที่ควรจะกังขา คือ คนที่จะมาซื้อ (ผู้ประมูล) ถ้าคนมาซื้อบอกว่า กติกานี้รับไม่ได้และไม่มีคนประมูลก็จะเป็นปัญหา แต่ถ้ามาดูแล้วมีคนซื้อ ปัญหาก็ไม่มี
เมื่อถามว่า คนที่จะมาประมูลก็ต้องรับความเสี่ยงไป นายชัยกล่าวว่า แน่นอนเพราะเป็นธุรกิจ การค้า คนมาซื้อไม่ได้ทำเพื่อการกุศล เขาทำเป็นการค้า เพราะฉะนั้นเรายกความรับผิดชอบให้กับเขา
เมื่อถามว่า ถ้าผู้ประมูลที่ได้ไปนำข้าวมากระจายจำหน่ายในประเทศประชาชนผู้บริโภคจะเป็นคนรับกรรมตรงนี้ไปหรือไม่ นายชัยกล่าวว่า ตนว่า ไม่ ข้าวสเปคนี้ คนไทยไม่กิน ตลาดข้าวมีข้าวไม่รู้กี่สเปค ข้าวสเปคนี้ขายในเมืองไทยไม่ได้ ไม่มีใครซื้อกิน
เมื่อถามว่า ประชาชนจะรู้ได้อย่างไรว่าข้าวล็อตไหนมาจากการประมูลข้าวในโกดังโครงการรับจำนำข้าว นายชัยกล่าวว่า หนึ่ง ข้าวล็อตนี้ถ้าเทียบกับปริมาณข้าวทั้งระบบเป็นจำนวนเล็กน้อย สอง ข้าวไม่ใช่สเปคที่คนซื้อบริโภคอยู่แล้ว สาม ผ่านการตรวจสอบเกี่ยวกับสารเปื้อน ดังนั้น มีการล็อกไว้แล้วหลายชั้น
"ถ้าคนสงสัยอาจจะคิดไปในทางที่เลวร้ายที่สุด เกิดมันรั่วไหลมา จะเป็นอย่างไร แต่ถ้ามันรั่วไหลมา คนที่ซื้อต้องกลับไปต่อว่าร้านค้าที่จำหน่าย เอาข้าวอะไรมา เพราะคนไทยไม่กินข้าวแบบนี้ และปริมาณที่จะไปผสมกับข้าวในท้องตลาดต่ำมาก ๆ โดยเฉพาะมีสื่อมวลชนคอยตรวจสอบ ถ้ารั่วไหลมากระทรวงพาณิชย์ก็ต้องโดนตำหนิ ถ้าทีโออาร์เป็นอย่างนั้นจริง คนที่รับผิดชอบก็ต้องอธิบายให้ได้"นายชัยกล่าว