วันที่ 6 มิถุนายน รายงานจากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้า ได้ออกใบประกาศ เนื่องการแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมัน โดยมีรายละเอียดดังนี้
อนุสนธิจากมติการประชุมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาราคาผลปาล์มน้ำมัน เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2567 ณ โรงแรมวังใต้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้โรงงนสกัดน้ำมันปาล์มทุกรายปรับราคารับซื้อผลปาล์มน้ำมัน หน้าโรงงานสูงขึ้น ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 4.50 บาท และหากผลผลิตสุกเต็มที่มีคุณภาพดี ให้ปรับราคาเพิ่มขึ้นสอดคล้องอัตราสกัดน้ำมันปาสม
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์ม ซึ่งมีอธิบดีกรมการค้า.ภายใน เป็นประธาน จะประชุมติดตามสถานการณ์ราคาและอัตราสกัดน้ำมันปาล์มทุกสัปดาห์ เพื่อพิจารณาปรับราคาให้สอดคล้องกับอัตราสกัดน้ำมันปาล์มและเป็นธรรมแก่เกษตรกรนั้น
กรมฯ ขอเรียนว่า เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2567 คณะอนุกรรมการบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์มได้ประชุมพิจารณาสถานการณ์ราคาและอัตราสกัดน้ำมันปาล์ม ร่วมกับผู้แทนเกษตรกร นายกสมาคมโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม และผู้แทนโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม (จ.สุราษฎร์ธานี กระบี่ ชุมพร นครศรีธรรมราข และตรัง) พบว่า ราคารับซื้อผลปาล์มน้ำมันหน้าโรงงานทุกแห่ง วันที่ 4 มิย. 67 ปรับสูงขึ้นมา อยู่ที่กิโลกรัมละ 4.50 - 5.20 บาท และอัตราสกัดน้ำมันปาล์มทั่วประเทศมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นเช่นเดียวกัน ดังนั้น คณะอนุกรรมการฯ จึงมีมติ ดังนี้
1. ขอให้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มด่ำเนินการ ดังนี้
2. คณะอนุกรรมการบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์ม ประชุมติดตามสถานการณ์การผลิตและการตลาด โดยเฉพาะด้านราคาและอัตราสกัดน้ำมันปาล์ม เป็นประจำทุกสัปดาห์ (ทุกวันอังคาร) ในการนี้ จึงขอให้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มทุกรายดำเนินการตามมติคณะอนุกรรมการฯ ดังกล่าว โดยกรมฯ ได้มีหนังสือถึงสมาคมโรงงานสกัดน้ำมันปาส์ม เพื่อประสานสมาชิกขอให้ดำเนินการตามมติคณะอนุกรรมการฯด้วยแล้ว
ทั้งนี้ หากมีการรับซื้อผลปาล์มน้ำมันในราคาไม่สอดคล้องกับอัตราสกัดน้ำมันปาล์มที่แท้จริงและราคาจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ อาจเข้าข่ายเป็นการจงใจทำให้ราคาต่ำเกินสมควรหรือทำให้เกิดความปั่นป่วนซึ่งราคาสินค้ามีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 29 และโทษตามมาตรา 41 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าบริการ พ.ศ. 2542