“ทุเรียนไห่หนาน” เขย่าไทย ครึ่งกก. 300 บาท พาณิชย์ เตือนอย่านิ่งนอนใจ

22 มิ.ย. 2567 | 23:15 น.

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน กระทรวงพาณิชย์ เตือนเอกชนไทย ส่งออกทุเรียนไปจีน อย่านิ่งนอนใจ หลังจีนปลูก “ทุเรียนไห่หนาน” ราคา ครึ่งกก. 300 บาท มีแนวโน้มขยายตัวอีกมาก

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยข้อมูลการค้าที่น่าสนใจเกี่ยวกับสถานการณ์ ตลาดทุเรียน ที่จำหน่ายในประเทศ โดยขณะนี้ พบว่า ประเทศจีนสามารถผลิต "ทุเรียนไห่หนาน" ได้ นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในวงการทุเรียนจีน ซึ่งประเทศไทย ควรหาทางพัฒนาทุเรียนไทยให้มีคุณภาพสูงและมีความสดใหม่ เพื่อยังสามารถรักษาตลาดจีนและตลาดโลกที่สูงไว้ได้ 

สำหรับ "ทุเรียนไห่หนาน" นั้น รายงานจาก China News Service ระบุข้อมูลว่า จีนได้มีการปลูกทุเรียนจำนวนมากที่ปลูกบริเวณไห่หนาน ซานย่า หยู่ไฉ มีการเติบโตได้ดีโดยขนาดทุเรียนเท่ากับลูกวอลเลย์บอล ประมานการช่วงฤดูสุกงอมช่วงแรกจากไห่หนานจะ ออกสู่ตลาดในช่วงปลายเดือนมิถุนายน โดยปี 2567 นี้ ผลผลิตจากการปลูกทุเรียนโดยประมาณ 500 ต้น เริ่มออกผล

จากการรายงาน ทุเรียนไห่หนาน ได้มีการปลูกเมื่อ 4 ปีที่แล้ว และในปีนี้เป็นฤดูออกผลครั้งแรก โดยทุเรียนอายุ 4 ปี สามารถผลิตทุเรียนได้มากถึง 19 ลูก ซึ่งแต่ละผลจะสามารถมีน้ำหนักถึง 2 กิโลกรัม

ทั้งนี้ฤดูเก็บเกี่ยวของทุเรียนไห่หนาน เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม โดยจะมีผลผลิตจากการเก็บเกี่ยวมากที่สุดในช่วงกรกฎาคม จากการคาดการณ์ชี้ให้เห็นว่าการเพาะปลูกทุเรียนในไห่หนานจะเกิน 6,600 เฮกตาร์ ( 41,250 ไร่ ) ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า แต่ทั้งนี้การปลูกทุเรียนในเกาะมีข้อเสียเปรียบคือต้องเผชิญกับการผลิตที่มีจำนวนจำกัด และสภาพอากาศที่ไม่แน่นอนและพายุไต้ฝุ่น

ขณะที่ราคาทุเรียนไห่หนานในช่วงช่วงเดือนพฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา ทุเรียนไห่หนานเริ่มเปิดตัวเข้าสู่ตลาดจีน ซึ่งผลผลิตเร็วกว่าที่คาดการณ์ประมาณหนึ่งเดือน ราคาขายอยู่ที่ประมาณ 60 หยวน/จิน (1 จิน เท่ากับ 0.5 กิโลกรัม) เนื่องด้วยจีนมีพื้นที่การปลูกจำกัด ทำให้ผลผลิตยังไม่มาก ส่งผลให้ราคายังคงสูง (ทุเรียนไทยขายปลีกประมาณ 30-35 หยวน/จิน) 

ทั้งนี้ Du Baizhong ประธานของสมาคมทุเรียนไห่หนานและเป็นผู้จัดการของ Hainan Youqi Agricultural Company ซึ่งปัจจุบันบริษัทเป็นฐานการปลูกทุเรียนที่ใหญ่ที่สุดในไห่หนาน คาดการณ์ปีนี้ผลผลิตจากการออกผลทุเรียนไห่หนานจะเพิ่มขึ้น 400% จากปีก่อนหน้า ซึ่งผลผลิตจะอยู่ที่ประมาณ  250 ตัน ทั้งนี้อุตสาหกรรมการปลูกทุเรียนในจีนเริ่มได้รับความนิยมและได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนจากทั่วประเทศจีน

"เมื่อจีนสามารถผลิตทุเรียนไห่หนานได้ จึงนับว่าเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในวงการทุเรียนจีน แต่ทั้งนี้จะยังส่งผลต่อการนำเข้าทุเรียนไทยได้ไม่มาก เนื่องจากปริมาณผลผลิตยังน้อย ถึงกระนั้นไทยก็ไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ เพราะตลาดทุเรียนไทยอาจต้องพบกับการแย่งส่วนแบ่งตลาดทุเรียนสดในจีนจากทุเรียนไห่หนานที่เริ่มเป็นที่รู้จัก" รายงานระบุ


ทั้งนี้สำนักงานฯ เห็นว่า จากนี้ไปประเทศไทยควรพัฒนาทุเรียนไทยให้มีคุณภาพสูงและมีความสดใหม่เพื่อยังสามารถรักษาตลาดจีนและตลาดโลกที่สูงไว้ได้ แม้ว่าทุเรียนไห่หนานจะเริ่มเป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภคจีน 

แต่หากทุเรียนไทยยังรักษาคุณภาพ และสร้างความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคทั้งในคุณภาพและรสชาติ การนำเข้าทุเรียนไทยยังคงมีโอกาสที่จะเป็นที่ต้องการในตลาดจีนและตลาดโลกด้วยความพร้อมที่จะต้องปรับตัวและพัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้นตามความต้องการของผู้บริโภคในทุก ๆ ประเทศ

ข้อมูลจาก Global Trade Atlas จีน รายงานว่าปัจจุบัน จีนได้มีการนำเข้าทุเรียนสดจาก 3 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้แก่ ไทย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ในช่วงมกราคมถึงเมษายนปี 2567 ที่ผ่านมา จีนนำเข้าทุเรียนสดจากไทยเป็นอันดับ 1 ปริมาณ 121,398.253 ตัน มูลค่า 716.691ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนแบ่งการตลาด 65.65% อัตราการขยายตัวลดลง 48.71% 

อันดับ 2 นำเข้าทุเรียนสดจากเวียดนาม 79,186.190 ตัน มูลค่า 369.211 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนแบ่งการตลาด 33.82% อัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น 82.93% และอันดับที่ 3 นำเข้าทุเรียนจากฟิลิปปินส์ 1,778.123 ตัน มูลค่า 5,807,841 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนแบ่งการตลาด 0.53% อัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น 474.5 ล้านเหรียญสหรัฐ