นับถอยหลัง สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กำลังจะได้นายกคนใหม่ในลำดับที่ 4 ในวันที่ 21 กรกฎาคม นี้ ต่อจากนายวิเชียร พวงลำเจียก และนายสุเทพ คงมาก และ นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ ปัจจุบันเป็นนายกสมาคมฯ รักษาการ นั้นมีอะไรจะฝากให้กับนายกสมาคมคนต่อไปที่จะสานนโยบายต่อกับพี่น้องชาวนาที่เป็นสมาชิกกว่าหมื่นคนทั่วประเทศ
นายธีรสินทร์ ธนชวโรจน์ รักษาการเลขาธิการสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ทางสมาคมได้มีหนังสือเชิญกรรมการเข้าร่วมประชุมใหญ่สามัญประจำปีสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ครั้งที่ 1/2567 โดยมีร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน ในวันเสาร์ที่ 20-21 กรกฎาคม 2567 ณ ห้องประชุมแกรนด์บอลรูม โรงแรม เดอะ คาวาลิ คาซ่า รีสอร์ท ต.บ้านเกาะ อ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งจะมีวาระสำคัญในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี คือการโหวต คัดเลือกกรรมการชุดใหม่ แทนชุดเก่าที่หมดวาระทั้งหมด ปัจจุบัน นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ รักษาการนายกสมาคมฯ
“สำหรับการคัดเลือกกรรมการประจำจังหวัด และกรรมการบริหารสมาคมฯ คือการยืนยันแสดงตัวตนท่านเองในวันประชุม พร้อมสมาชิกในการเสนอชื่อของแต่ละจังหวัดนั้น และผู้รับรอง อีก 2 คน ทางสมาคมให้ความสำคัญในเรื่องระเบียบข้อบังคับมาโดยตลอด และจะปฏิบัติอย่างเคร่งคัด อย่างที่เคยปฏิบัติมาแต่ก่อน โดยจะต้องเตรียมเอกสารในการส่งหลักฐานข้อมูล รูปถ่ายหน้าตรง ขนาด 2" จำนวน 2 รูป พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านอย่างละ 2 ชุด ในวันประชุมใหญ่สามัญประจำปีด้วย”
หลังจากนั้นจะดำเนินการจัดทำเอกสารแต่งตั้งกรรมการสมาคมฯ และทะเบียนสมาชิกส่งให้ฝ่ายทะเบียนธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ต่อไปหลังวันประชุมใหญ่จากประชุมใหญ่สามัญประจำปีนี้เสร็จสิ้นลงทางสมาคมฯ จะมีการออกบัตรกรรมการให้ใหม่ทั้งหมด ดังนั้นจึงขอให้เตรียม รูปถ่ายขนาด 1นิ้ว เพิ่มเติมอีกจำนวน 2 รูป เพื่อใช้ในการทำบัตรกรรมการ จึงแจ้งเพื่อรับทราบโดยทั่วกัน
นายธีรสินทร์ กล่าวถึง เจตนารมณ์ของสมาคม ที่นำทีมโดยนายกปราโมทย์ เจริญศิลป์ และที่ปรึกษาที่มีองค์ความรู้หลายๆท่านในสมาคมฯ ไม่ได้ต้องการเอาความอยากได้ของเกษตรกรมาหาแสง ต่างก็มีเป้าหมายในการช่วยเหลือและรักษาผลประโยชน์ให้กับเกษตรกร แต่ทั้งหมดต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง พื้นฐานการอยู่ร่วมสังคมกับอาชีพอื่นๆ ซึ่งพวกเราชาวสมาคมฯไม่เคยด้อยค่าอาชีพอันทรงเกียรตินี้ และมีความภาคภูมิใจที่ได้อยู่ในห่วงโซ่ต้นน้ำที่มีอำนาจต่อรองที่ทรงพลัง และมีศักดิ์ศรี
นอกจากนี้ที่ผ่านมาการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ในรัฐบาลก็ได้รับการยอมรับ และให้เสนอความคิดเห็นต่างๆ จนสามารถเข้าไปแก้ปัญหาข้าวในระดับชาติ โดยไปนั่งในคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) และคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิต รวมทั้งมีคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการบริหารจัดการข้าวระดับจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะเห็นทางสมาคมมีตัวตน มีสมาชิกทั่วประเทศ แล้วการช่วยเหลือและรักษาผลประโยชน์ต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง และการอยู่ร่วมสังคมกับอาชีพอื่นๆ
อนึ่ง สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย จดทะเบียนสมาคมเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2555 ได้ดำเนินงานมาจนถึงปัจจุบันมีสมาชิกทั่วประเทศที่เป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าว กว่าหมื่นคนทั่วประเทศ