ผวาจีนผุด รง.เอทานอลจากถ่านหิน ทุบส่งออกมันฯไทย แสนล้าน

20 ก.ค. 2567 | 00:00 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ก.ค. 2567 | 08:23 น.

ส่งออกมันฯ แสนล้านระส่ำ ผวาจีนผุด รง.ผลิตเอทานอลจากถ่านหิน ทดแทนนำเข้ามันเส้นได้ 2 ล้านตัน สมาคมการค้ามันฯ ประเมินครึ่งปีหลัง แนวโน้มปี 68 ปัจจัยเสี่ยงเพียบ ทั้งบาทผันผวน คู่ค้าชะลอซื้อ ผลผลิตข้าวโพดจีเอ็มโอในจีนทะลัก จี้รัฐช่วยชาวไร่เพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนหนุนส่งออก

ประเทศจีน เป็นตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังอันดับ 1 ของไทย ล่าสุดรัฐบาลจีนมีโครงการผลิตเอทานอลจากถ่านหินที่ใหญ่ที่สุดในโลก (แปลงถ่านหินเป็นเอทานอลได้)กำลังผลิต 500,000 ตัน/ปี ซึ่งได้เริ่มดำเนินการทดลองในเมือง อวี้หลิน มณฑลส่านซี จะส่งผลให้ความต้องการใช้พืชผลทางการเกษตรเช่น ข้าวโพด อ้อย หรือมันเส้นเป็นวัตถุดิบในการผลิตเอทานอลลดลง ส่งผลให้สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย ได้มีการประชุม(16 ก.ค.67) ร่วมกับสมาชิกเพื่อรับมือเป็นการเร่งด่วน

นายชุมพล ขจรเฉลิมศักดิ์

นายชุมพล ขจรเฉลิมศักดิ์ นายกสมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ขณะนี้โรงงานผลิตแป้งมันปะหลัง เริ่มกลับมาเปิดดำเนินการกันมากขึ้นแล้ว (ช่วง เม.ย.ปิดตามฤดูกาล) โดยเริ่มเปิดดำเนินการแล้วกว่า 60 โรง จากผลผลิตมันสำปะหลังเริ่มทยอยออกสู่ตลาดมากขึ้น แต่ยังมีไม่มากนัก ทำให้โรงงานแป้งมันต้องแย่งซื้อวัตถุดิบ

“ราคาหัวมันสำปะหลัง ในช่วงนี้เปอร์เซ็นต์แป้งต่ำสุด เฉลี่ย14-15% จากที่เคยมีเชื้อแป้ง 30% ประกอบกับเป็นมันอ่อน หากฝนตกลงมาไม่ขุดก็ไม่ได้ ต้องเร่งขุดหนีน้ำ ไม่เช่นนั้นหัวมันจะเน่า ทำให้หัวมันคุณภาพไม่ค่อยดี และมีสิ่งเจือปนมาก ส่วนมันเส้นมีปัญหาจากฝนตก ไม่ค่อยมีแดด บางครั้งตากมันไม่ได้ นี่คือปัญหา คาดจะลากยาวไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน”

ในส่วนของตลาดจีนที่เป็นตลาดใหญ่ของแป้งมันสำปะหลังไทย เวลานี้ปัญหาจากแป้งมันมีราคาสูงกว่าแป้งข้าวโพดมาก ประกอบกับผลผลิตดี จากข้าวโพดจีเอ็มโอ ทำให้ราคาถูก และขณะนี้จีนสามารถแปลงถ่านหินเป็นเอทานอล ซึ่งจะทดแทนมันเส้นที่ใช้ผลิตเอทานอล และยังมีราคาถูกกว่า 3-4 หยวน คาดจะทำให้ลดการใช้มันเส้นลงประมาณ 2 ล้านตัน เมื่อกระทบมันเส้นแล้วคาดจะส่งผลถึงแป้งมันตามมาแน่นอน รวมถึงจะกระทบต่ออุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทยทั้งระบบ (ปี 2566 ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง 1.27 แสนล้านบาท สัดส่วน 63% ส่งออกไปจีน)

นายสุรพงษ์ แสงศิริพงษ์พันธ์

ด้านนายสุรพงษ์ แสงศิริพงษ์พันธ์ นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย กล่าวว่า ณ ปัจจุบัน ราคามันเส้นส่งออกขยับขึ้นเป็น 238 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน แต่ก็ยังไม่มีใครซื้อเพิ่ม แม้ว่าจะมีความต้องการของประเทศจีนที่คาดไม่น่าเกิน 2 ล้านตัน จากการส่งออกตั้งแต่เดือน ม.ค.-มิ.ย. 2567 ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 50-60% มีส่วนสำคัญจากเงินบาทแข็ง ทำให้คู่ค้าชะลอซื้อ

 

ผวาจีนผุด รง.เอทานอลจากถ่านหิน ทุบส่งออกมันฯไทย แสนล้าน

“จากที่จีนผุดโรงงานเอทานอลจากถ่านหิน มีผลกระทบไทยแน่นอน ซึ่งโรงงานในประเทศจีนที่มีขนาดใหญ่ยังไม่รับซื้อ ปัจจุบันขายให้กับโรงกลั่นขนาดเล็ก ราคา 6,200-6,300 หยวนต่อตัน ถ้านับจากนี้ไปอีก 2-3 ปีข้างหน้าเขามีการพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องจักรให้สามารถผลิตเอทานอลจากถ่านหินได้เทียบเท่าธัญพืชอาจจะต้องกลับมาประเมินสถานการณ์อีกครั้ง”

อย่างไรก็ดี ทิศทางอนาคตมันสำปะหลังไทย จากครึ่งปีหลังปีนี้ไปถึงปี 2568 มี 2 กรณีด้วยกันคือ 1.หากต้นทุนการผลิตของชาวไร่ยังสูงกว่า 2,300 บาท/ตัน ก็อาจจะสู้คู่แข่งไม่ได้ และ 2.หากผลผลิตมันสำปะหลังสามารถทำได้ที่ 2.8 ตัน/ไร่ (จากที่เคยมีผลผลิต 3.5 ตันต่อไร่) แต่มีต้นทุนที่ถูกลง ก็จะทำให้การส่งออกแข่งขันด้านราคาได้ ผู้ซื้อก็จะสามารถเพิ่มปริมาณการซื้อได้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่จะทำให้มันเส้นกลับมาคึกคักอีกครั้ง หากข้าวโพดในประเทศจีน ปีการผลิต 2567/2568 มีผลผลิตต่ำกว่า 270 ล้านตัน จะทำให้ราคาข้าวโพดในจีนขยับสูงขึ้น ก็จะเป็นผลดีกับผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทย

ชาวไร่มันสำปะหลัง

“อยากจะฝากรัฐบาลในเรื่องงบประมาณแก้ปัญหาโรคใบด่างมันสำปะหลัง และงบประมาณสนับสนุนท่อนพันธุ์ต้านโรค ที่ปัจจุบันมีไม่เพียงพอที่จะให้เกษตรกรปลูก ส่วนเกษตรกรก็จะต้องทำอย่างไรเพื่อให้ต้นทุนถูกลงและเพิ่มผลผลิตต่อไร่ เพื่อให้การส่งออกแข่งขันได้ และส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมในภาพรวม”

 

หน้า 9 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,011 วันที่ 21-24 กรกฎาคม พ.ศ. 2567