นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในฐานะนายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เข้าใจดีว่าในการส่งออกข้าวของไทยต้องแข่งขันในเรื่องราคา และปัจจุบันเงินบาทแข็งค่ามากทำให้การซื้อขายกับต่างประทศค่อนข้างลำบาก ดูจากสถานการณ์ราคาเวลานี้ก็ปรับลดลงมามากพอสมควรแล้ว อย่างไรก็ดีจากที่สมาคมฯ ได้ติดตามข่าวมา ก็เกิดความไม่เข้าใจว่า ในเมื่ออินเดียประกาศกลับมาส่งออกข้าวขาวและประกาศราคาขั้นต่ำที่ 490 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ซึ่งปกติที่รับรู้รับทราบทั่วไป "ราคาข้าวไทยจะสูงกว่าอินเดียประมาณ 40-50 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน" และเป็นเช่นนี้มาโดยตลอด
คำถามคือ ทำไมราคาข้าว(ข้าวเปลือกเจ้า) ลดลงมาก เพราะก่อนหน้านี้ที่ข้าวขาว 5 % ของอินเดียที่เคยขายระดับ 360-370 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ราคาข้าวเปลือกไทยยังอยู่ที่ 6,000-7,000 บาทต่อตัน เพราะการกลับมาส่งอกข้าวขาวของอินเดียครั้งใหม่ที่ระบุให้ขายราคาขั้นต่ำ 490 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันตัน แต่ปัจจุบันกลับดูเหมือนว่าราคาข้าวเปลือกที่ชาวนาขายได้ ณ เวลานี้อยู่ที่ 6,000-7,000 บาทต่อตัน(ข้าวเกี่ยวสดความชื้น 25% หรือมากกว่า)เทียบเท่ากับสมัยในช่วงที่ข้าวสารในตลาดโลกอยู่ 370 ดอลลาร์สหรัฐตันเท่านั้น
“ขอฝากถึงโรงสี และผู้ส่งออก ว่าราคาข้าวเปลือกที่ชาวนาขายได้เวลานี้ต่ำเกินไปหรือไม่ และฝากถึงกระทรวงพาณิชย์ ช่วยดูแลไม่ให้ราคาข้าวเปลือกต่ำเกินไป แบบนี้ชาวนาจะเหลืออะไร และที่สำคัญช่วงนี้เงินบาทแข็งค่าเป็นประโยชน์สำหรับผู้นำเข้า ดังนั้นฝากกระทรวงพาณิชย์ ช่วยดูเรื่องราคา ปุ๋ย ยาที่นำเข้าให้ปรับลดลงมาด้วย และอยากฝากถึงกรมการค้าภายใน ให้ไปช่วยดูแลการซื้อขายข้าวเปลือกในสถานที่ต่าง ๆ ทั้งโรงสี และท่าข้าว ว่าชาวนาได้รับความเป็นธรรมจากการซื้อขายหรือไม่ ทั้งเรื่องการวัดค่าความชื้น มีการระบุความชื้นในใบรับสินค้าข้าวเปลือกหรือไม่ เพราะขณะนี้มีทั้งข้าวคุณภาพดี และข้าวล้มจมน้ำ ดังนั้นข้าวคุณภาพดีควรได้ราคาดี ไม่ตีราคาเหมา ไม่วัดความชื้น ส่วนข้าวล้มจมน้ำก็ว่ากันไปตามคุณภาพ"
นายปราโมทย์ กล่าวอีกว่าว่า ในสมัยรัฐบาลเศรษฐาที่ผ่านมา สส.พรรคร่วมรัฐบาลหลายคนเชียร์ให้รัฐบาลสนับสนุนเงินช่วยเหลือเกษตรกรไร่ละ 1,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน20,000 บาท หากจริงใจอย่างที่เคยพูดไว้ ก็หวังว่าจะช่วยผลักดันให้รัฐบาลออกมาตรการมาช่วยเหลือชาวนาด้วย ทั้งนี้สมาคมชาวนาฯ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลนำโครงการไร่ละ 1,000 บาท และโครงการชะลอการขายข้าวในส่วนที่เป็นยุ้งฉางของเกษตรกร โดยมีค่าเก็บฝากตันละ 1,000 บาทต่อเดือน เพื่อเป็นการสนับสนุนและช่วยเหลือเกษตรกร ในช่วงราคาข้าวเปลือกตกต่ำเพราะปลายเดือนตุลาคมเป็นต้นไปจะเริ่มมีข้าวหอมมะลิออกสู่ตลาดแล้ว
ด้าน นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการจ่ายเงินไร่ละ 1,000 บาทไม่เกิน 20 ไร่ เป็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่จะเสนอไปยังคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เพื่อขอความเห็นชอบในที่ประชุม ไม่ใช่หน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ อย่างไรก็ดีในขณะนี้กำลังจับตาอย่างใกล้ชิด ถ้าเมื่อไรราคาข้าวมีปัญหา หรือมีแนวโน้มว่าจะมีปัญหาคงจะต้องเรียกประชุมเพื่อหารือว่าจะมีมาตรการใดออกมาทันที