โรงสีระส่ำ แบงก์เข้มปล่อยกู้ ทำขาดสภาพคล่อง จ่อหยุดรับซื้อข้าวเปลือก

10 ก.ย. 2567 | 06:11 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ก.ย. 2567 | 06:18 น.

ข้าวเปลือกราคาตก วันนี้ (10 ก.ย.67) ฉุดราคาข้าวสาร 5% ร่วงอีกตัน 300 บาท โรงสีระส่ำแบงก์หวั่นหนี้เสีย เข้มปล่อยกู้ ทำขาดสภาพคล่อง จ่อหยุดรับซื้อเลียนโมเดลข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

นายรังสรรค์ สบายเมือง นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย  เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงสถานการณ์ราคาข้าวเปลือก และข้าวขาว 5% ราคาปรับตัวลงมามาก จากโรงสีทั่วประเทศถูกธนาคารบีบหนัก ทำให้ขาดสภาพคล่อง ทำให้ต้องทุ่มขายข้าวหนีตายราคาข้าวลงทุกวันหากเป็นเช่นนี้อีกไม่เกิน 7 วันโรงสีหยุดรับซื้อข้าวเพราะไม่มีเงินซื้อ คล้ายกับพ่อค้าข้าวโพดที่ประกาศจะหยุดรับซื้อ วันที่ 13-15 กันยายนที่จะถึงนี้

โรงสีระส่ำ แบงก์เข้มปล่อยกู้ ทำขาดสภาพคล่อง จ่อหยุดรับซื้อข้าวเปลือก

“อยากให้ นายพิชัย นริพทะพันธุ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ เร่งเข้ามาจัดการช่วยสนับสนุนโรงสีข้าวและชาวนา ด้วยการหาแหล่งสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ มาสนับสนุนการซื้อข้าวจากชาวนา เพื่อให้ได้ราคาที่ดี และซื้อข้าวได้ปริมาณตามผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบันราคาข้าวเปลือกจาก 12,000 บาท/ตัน วันนี้เหลือ 10,800 ถึง 11,000 บาท/ตัน และกระทบราคาข้าวสาร 5% ราคาลงจากเมื่อวาน 300 บาท/ตัน  จาก 17,800 บาท/ตัน ปรับเหลือ 17,500 บาท/ตัน และมีแนวโน้มที่จะปรับลงต่อเนื่อง”

 

นายรังสรรค์ กล่าวว่า เหตุผลสำคัญก็มาจากธนาคารงดให้สินเชื่อ พร้อมออกมาตรการเข้มงวด ทำให้โรงสีรีบขายเพื่อหมุนเวียนไม่สามารถสต็อกรอราคาได้ จึงทำให้เร่งออกมาขายจึงทำให้ราคาตก 

ราคาข้าวโพด ณ วันที่ 10 กันยายน 2567

สอดคล้องกับแหล่งข่าววงการค้าพืชไร่  กล่าวว่า พอราคาข้าวโพดตกต่ำลงมา ก็กระทบไปราคาปลายข้าว รำข้าว ลงตามด้วย เพราะโรงงานอาหารสัตว์ เครือใหญ่ปรับราคารับซื้อลงแล้วด้วย ในขณะที่ชาวไร่ข้าวโพดก็ประสบปัญหาเรื่องน้ำท่วม ทำให้เก็บเกี่ยวเร็ว แข่งกับราคาที่ลงทุกวัน  เหตุการณ์ดังกล่าวเหมือนโรงสีเมื่อ 3 ปีก่อน ซื้อข้าวเดือนเดียวแย่งกันเพื่อบริหารให้โรงสีได้หลายเดือน รอจนถึงฤดูนาปรัง ถ้าไม่มีน้ำให้ทำก็จบรอบเดียวใน 1 ปี