นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังให้การต้อนรับ นายอิสซา อับดุลเลาะฮ์ ญาบิร อัลอาลาวี เอกอัครราชทูตรัฐสุลต่านโอมานประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะเข้ารับตำแหน่งใหม่ และหารือการส่งเสริมความร่วมมือด้านการเกษตรและสหกรณ์ระหว่างไทย-โอมาน ณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า ตลอดระยะเวลา 44 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยและรัฐสุลต่านโอมานมีความร่วมมือด้านการเกษตร ประมง การค้า และมีความสัมพันธ์ทางการทูตที่ดีระหว่างกัน
จึงได้เสนอนโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ของรัฐบาลที่ต้องการยกระดับสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูง รวมถึงการทำเกษตรยั่งยืน เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรมีความอยู่ดีกินดี มีรายได้เพิ่มขึ้น ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาช่วยในการผลิตสินค้าเกษตรมูลค่าสูง
พร้อมทั้งขยายตลาดสินค้าเกษตรที่มีอยู่เดิมและเพิ่มตลาดใหม่ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการบริหารจัดการทรัพยากรทางการเกษตรอย่างยั่งยืนให้ทางโอมานรับทราบแนวทาง เพื่อหารือการขับเคลื่อนงานภาคการเกษตรร่วมกัน
ด้านเอกอัครราชทูตรัฐสุลต่านโอมานประจำประเทศไทย กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้สานสัมพันธ์กับทางไทยมาเป็นระยะเวลานาน และยินดีอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมมือด้านการเกษตรและประมงกับไทย ด้วยการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ วิจัย และงานวิชาการ เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืนร่วมกัน
นอกจากนี้ ทางโอมานกำลังเร่งพิจารณาร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงเกษตร และประมงแห่งรัฐสุลต่านโอมาน และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทย ว่าด้วยความร่วมมือด้านการเกษตรและประมง เพื่อเสริมสร้างและส่งเสริมความร่วมมือเชิงเทคนิค เทคโนโลยี และการอำนวยความสะดวกด้านการค้า ครอบคลุมพืช ปศุสัตว์ ประมง ชลประทาน การจัดการดินและน้ำ รวมถึงความร่วมมือด้านเกษตรในอนาคต
ทั้งนี้ นางนฤมล ได้ขอให้เอกอัครราชทูตรัฐสุลต่านโอมานประจำประเทศไทยเชิญตัวแทนแห่งรัฐสุลต่านโอมาน เข้าร่วมการประชุมนานาชาติว่าด้วยการจัดการทรัพยากรดิน และน้ำ เพื่อความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน (The International Soil and Water Forum 2024) ที่ไทยเป็นเจ้าภาพร่วมกับ FAO ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-11 ธันวาคม 2567 ณ กรุงเทพมหานคร อีกด้วย