สมาคมฯทูน่าเซ็นเอ็มโอยู รับซื้อปลาโอจากเรือประมงไทย 2,000 ล้าน ปี 68
สมาคมอุตฯทูน่าไทย-สมาคมประมงอวนล้อมจับฯ ลงนาม MOU ฉบับที่ 2 รับซื้อปลาโอจากเรือประมงไทยปี 68 มูลค่ากว่า 2 พันล้าน สานต่อความยั่งยืน ไม่ทำผิดกฎหมาย IUU ตรวจสอบย้อนกลับได้
รายงานข่าวจากหอการค้าไทย เผยว่า เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2567 สมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย และสมาคมประมงอวนล้อมจับ(ประเทศไทย) ได้จัดพิธีลงนามความร่วมมือการรับซื้อวัตถุดิบสัตว์น้ำกลุ่มปลาโอ (ปลาโอดำ โอลาย โอหลอด) ที่ได้จากเรือประมงไทย ในน่านน้ำไทย ซึ่งเป็นการจัดพิธีลงนามร่วมกัน เป็นครั้งที่ 2
การลงนามในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการใช้วัตถุดิบภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีกรมประมงเป็นสักขีพยาน ณ โรงแรม Sunnyvale Ranong จังหวัดระนอง
ทั้งนี้ ทั้งสองสมาคมได้แสดงความมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกัน เพื่อความยั่งยืนของห่วงโซ่อุตสาหกรรมประมงภายในประเทศ โดยยึดมั่นในหลักการ “สินค้าสัตว์น้ำกลุ่มปลาโอของไทยต้องมาจากการจับที่ปราศจากการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม(IUU Fishing) มีระบบการควบคุมและติดตามเรือที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนไม่มีการใช้แรงงานเด็ก แรงงานบังคับ และการค้ามนุษย์ มีระบบการจ้างงานที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นธรรม ตามกฎหมายไทย”
นายชนินทร์ ชลิศราพงศ์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย กล่าวว่า สมาคมฯ ยังคงมีจุดยืนที่ชัดเจนในการช่วยเหลือชาวประมงไทยให้อยู่ได้ และเห็นด้วยในการสร้างสมดุลยภาพความเป็นธรรมด้านราคาให้กับห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด ตั้งแต่ชาวประมงไทย อุตสาหกรรม ค้าปลีก-ค้าส่ง โดยหลักการคือ ต้องทำให้ผู้ซื้อ-ผู้ขายอยู่ในระบบ เพื่อความเป็นธรรมและตรวจสอบได้ อีกทั้งทุกฝ่ายต้องปรับตัวให้สอดรับกับความต้องการของตลาดต่างประเทศ
สมาคมฯ ได้ขอความร่วมมือโรงงานสมาชิกทั้งภาคใต้และสมุทรสาคร ช่วยรับซื้อปลาจากเรือไทยอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงเดือนมกราคม-ธันวาคม ปี 2568 สมาชิกสมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย ยินดีรับซื้อสัตว์น้ำกลุ่มปลาโอจากเรือไทยที่เป็นสมาชิกสมาคมอวนล้อมจับ(ประเทศไทย) ปริมาณ 50,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท และทั้ง 2 สมาคมจะหารือแนวทางการรับซื้อร่วมกันเป็นประจำทุกไตรมาส
การร่วมมือครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการส่งเสริมการประมงที่มีความรับผิดชอบ ช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับห่วงโซ่ของอุตสาหกรรมทูน่าไทย และเป็นแบบอย่างที่ดีในการพัฒนาอุตสาหกรรมประมงในประเทศต่อไป
นายณุกร ธารีรัตนาวิบูลย์ นายกสมาคมประมงอวนล้อมจับ(ประเทศไทย) กล่าวว่า การลงนาม MOU ฉบับนี้ ทางสมาคมฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการรับซื้อปลาจากเรือไทยก่อน อย่างสม่ำเสมอ โดยซื้อตรงจากเรือประมง หรือ เรือและแพที่เป็นเจ้าของเดียวกัน เพื่อช่วยเหลือเศรษฐกิจชุมชนชาวประมงให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน สมาคมฯยังเสนอให้ทางสมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทยรับซื้อปลาซาร์ดีน แมคเคอเรล จากเรือที่เป็นสมาชิกของสมาคมอวนล้อมฯ ด้วย เพื่อเป็นการรักษาเสถียรภาพราคา โดยจะมีการหารือร่วมกันในรายละเอียดต่อไป