ชาวนาตื่น ต่อคิวซื้อ “กข107“ พันธุ์ข้าวใหม่ กรมการข้าว

นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงความคืบหน้าโครงการต่าง ๆ ของกรมการข้าว ทั้งโครงการแลกเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ และสมาร์ทฟาร์มเมอร์  โดยผู้ที่จะได้รับการสนับสนุนปัจจัยการผลิตจากกรมการข้าวจะต้องเป็นสมาชิกศูนย์ข้าวชุมชนใจเท่านั้น ปัจจุบันสามารถจัดตั้งศูนย์ข้าวชุมชนทั่วประเทศได้แล้วร่วม 6,000 ศูนย์ ซึ่งสมาชิกจะรับเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  เพราะต่อไปการช่วยเหลือทุกอย่างจะผ่านศูนย์ข้าวชุมชน จากเป็นหน่วยงานหลัก และเป็นคู่ค้าของกรมการข้าว เช่นเดียวกับส่งเสริมสหกรณ์  มีสหกรณ์ ส่วนกรมส่งเสริมการเกษตร ก็มีเกษตรแปลงใหญ่ และมีวิสาหกิจชุมชน ซึ่งกรมการข้าวก็มีศูนย์ข้าวชุมชน จะทำให้ความเข้มแข็งเกิดขึ้น

“ยกตัวอย่างโครงการแปลงนาสะอาด ก็คัดเลือกจากไร่เมล็ดพันธุ์ดี ก็ต้องเป็นสมาชิกศูนย์ข้าวชุมชนเท่านั้น เช่นเดียวกับโครงการแลกเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าว ขายเมล็ดพันธุ์ข้าวเจ้า กข85 กข95 ราคากิโลกรัมละ 3 บาท หรือกระสอบละ 75 บาท (กระสอบละ 25 กก.) และเมล็ดพันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ 105 ราคากิโลกรัมละ 5 บาท หรือกระสอบละ 125 บาท จะให้เฉพาะสมาชิกศูนย์ข้าวชุมชนเท่านั้น  แต่ถ้าเกษตรกรทั่วไปอยากได้รับการช่วยเหลือให้รวมตัวกันตั้งเป็นกลุ่มศูนย์ข้าวชุมชนเราจะได้พัฒนาง่าย”

นายณัฏฐกิตติ์ กล่าวถึงพันธุ์ข้าวใหม่ที่กรมการข้าวรับรอง 10 พันธุ์ เนื่องในโอกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เจริญพระชนมายุ 72 พรรษา โดยมีข้าวหลายประเภท ประกอบด้วย ข้าวขาวพื้นนุ่ม ข้าวขาวพื้นแข็ง ข้าวหอมไทย ข้าวเหนียว ข้าวญี่ปุ่น ข้าวพื้นเมือง และข้าวสาลี ซึ่งข้าวแต่ละประเภทจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันตามการนำไปใช้ประโยชน์

ล่าสุด พันธุ์ข้าวที่ขายดี และไม่เพียงพอต่อความต้องการ  ได้แก่  “กข111”  (เจ้าพระยา 72) เป็นข้าวเจ้าพื้นแข็ง ไม่ไวต่อช่วงแสง อายุเก็บเกี่ยว 100-110 วัน เมื่อปลูกโดย(หว่านน้ำตม) และ110-116 วัน (ปักดำ) ต้นสูงประมาณ 112-122 เซนติเมตร ศักยภาพให้ผลผลิต 1,176 กิโลกรัมต่อไร่ ค่อนข้างต้านทานโรคขอบใบแห้งและเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ท้องไข่น้อย คุณภาพการสีดีมาก​ สามารถผลิตเป็นข้าวสาร 100 % ชั้น 1 ได้

2.พันธุ์ กข107 (พิษณุโลก 72) เป็นข้าวเจ้าพื้นแข็ง ไม่ไวต่อช่วงแสง อายุเก็บเกี่ยวสั้นเฉลี่ย 107 วัน (ฤดูนาปี) และ 108 วัน (ฤดูนาปรัง) เมื่อปลูกโดยวิธีปักดำ ศักยภาพให้ผลผลิต 1,070 กิโลกรัมต่อไร่ เป็นข้าวเจ้าพื้นแข็งหอม ให้สาร 2APเท่ากับ 0.61 ppm คุณภาพเมล็ดทางกายภาพดี ท้องไข่น้อย คุณภาพการสีดี สามารถสีเป็นข้าวสาร 100 เปอร์เซ็นต์ ชั้น 1 ได้  ค่อนข้างต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ทนน้ำท่วมฉับพลันปานกลาง

“พันธุ์ข้าวนี้เกษตรกรกว่า 2 พันคน จากชาวนาจังหวัดชัยนาท พิษณุโลก และจังหวัดใกล้เคียง มาเข้าคิวรอตั้งแต่ตี 3  ตอนนี้กรมการข้าวปั่นป่วน ผลิตออกมาไม่ทัน ข้าวอบมายังไม่ทันได้พักตัวเลย เกษตรกรแย่งซื้อกันแล้ว วันนั้นก็ต้องจัดสรรให้ได้ทุกคน จากปกติจะได้ 5-10 กระสอบ ก็ต้องนำมาเฉลี่ยคนละ 3 กระสอบ หรือประมาณ 45 กิโลกรัม”

นายณัฏฐกิตติ์ กล่าวถึงพันธุ์ข้าวที่ขายดีที่สุด ได้แก่ กข111 (เจ้าพระยา 72) ,กข85 และ กข95 ล่าสุดกรมการข้าวได้ขยายแปลงผลิตพันธุ์ข้าว ไปจำนวนมาก ซึ่งเข้าใจว่า ข้าวที่ชาวนาซื้อไปปลูกทดแทนข้าวหอมพวง ที่ผลผลิตต่อไร่คาดว่าจะลดลงแล้ว สวนกับความต้องการตลาดที่ต้องการข้าวพื้นแข็ง ซึ่งเป็นข้าวอุตสาหกรรม ราคารับซื้อก็สูงกว่า และผลผลิตต่อไร่ก็สูงด้วย

อย่างไรก็ดี ในช่วงนี้ทางกรมการข้าว ได้รับรายงานจากเกษตรกรหรือผู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการถูกหลอกลวงในธุรกิจเมล็ดพันธุ์ข้าวในหลายภาคส่วน ซึ่งขอให้ระวังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อย่าหลงเชื่อ หากสนใจให้สอบถามที่กรมการข้าว