นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมได้รับนโยบายจาก นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าในพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้อย่างใกล้ชิด ภายใต้นโยบาย “ห้ามขาด-ห้ามแพง” โดยเฉพาะในจังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสตูล ซึ่งกรมได้รับรายงานจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่เข้าตรวจสอบสถานการณ์ทันที
ทั้งนี้ จากการเข้าตรวขสอบในพื้นที่พบว่า สินค้าในห้างยังจำหน่ายปกติ ไม่มีการปิดห้างจากเหตุน้ำท่วม ยกเว้นร้านสะดวกซื้อและร้านค้าในแหล่งชุมชนพื้นที่น้ำท่วมบางแห่งที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งกรมพร้อมประสานและเข้าช่วยเหลือ หากมีปัญหาในเรื่องของสถานการณ์สินค้า ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของห้าง หรือประชาชน โดยสามารถแจ้งผ่านสำนักงานพาณิชย์จังหวัดหรือโทรสายด่วน 1569 ได้ทันที
ขณะเดียวกัน กรมได้ประสานงานไปยังห้างค้าปลีกค้าส่ง ให้เตรียมสต๊อกสินค้าให้เพียงพอ และให้วางแผนรับมือให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และประสานไปยังผู้ขนส่งสินค้า ให้เตรียมการในเรื่องการขนส่งสินค้าให้ดี เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งทั้งห้างและผู้ประกอบการขนส่ง ได้รับที่จะดูแลไม่ให้มีปัญหาทั้งในเรื่องสินค้า และเรื่องการขนส่งแล้ว
นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัด ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง หากมีปัญหาตรงจุดใด หรือมีปัญหาสินค้ารายการใดไม่เพียงพอ ก็ให้ประสานงานเข้ามายังส่วนกลางทันที เพื่อที่จะได้ประสานงานไปยังผู้ผลิต และจะได้ดำเนินการแก้ไขอย่างทันท่วงที รวมทั้งให้กำกับดูแล ไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคา กักตุนสินค้า และเอารัดเอาเปรียบประชาชน ตลอดจนติดตามตรวจสอบการปิดป้ายแสดงราคา ให้เกิดความเป็นธรรมกับประชาชน
สำหรับโทษ กรณีกักตุนสินค้า ฉวยโอกาสขึ้นราคา เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคา มีโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท