วิจัยกรุงศรี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ได้เปิดเผยบทวิเคราะห์เกี่ยวกับอุตสาหกรรมน้ำตาลของไทยในปี 2567- 2569 โดยเผยว่าในปี 2567 อุตสาหกรรมน้ำตาลของไทยจะหดตัว เนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้งที่ทำให้เกิดปัญหาผลผลิตไม่เพียงพอต่อการส่งออก แม้ว่าตลาดในประเทศจะยังขยายตัวได้ต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของธุรกิจร้านอาหารและภาคท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม ในปี 2568-2569 คาดว่าภาพรวมอุตสาหกรรมจะขยายตัวได้ จากการเข้าสู่ภาวะลานีญาทำให้สภาพอากาศเอื้ออำนวย ประกอบกับระดับราคาน้ำตาลที่เพิ่มสูงขึ้นจูงใจให้เกษตรกรเพาะปลูก ขณะที่ความต้องการน้ำตาลมีแนวโน้มขยายตัวจากแรงหนุนของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่จะเอื้อต่อการกระตุ้นอุปสงค์จากอุตสาหกรรมต่อเนื่องโดยเฉพาะอาหารและเครื่องดื่มทั้งตลาดในประเทศและตลาดคู่ค้า
ขณะเดียวกันอุตสาหกรรมน้ำตาลยังเผชิญความท้าทายจากต้นทุนการเพาะปลูกอ้อยที่ยังสูง การปรับขึ้นภาษีความหวานของไทยและประเทศคู่ค้าหลายประเทศ กระแสรักษ์สุขภาพทั่วโลกที่ส่งผลต่อการลดการบริโภคน้ำตาล และความไม่แน่นอนของกฏระเบียบภาครัฐ โดยเฉพาะการปรับแก้ พรบ.อ้อยและน้ำตาลทรายที่อาจกระทบต่อผลกำไรของอุตสาหกรรม
ทั้งนี้มุมมองวิจัยกรุงศรี ได้สรุปปี 2567-2569 คาดว่ารายได้ของธุรกิจจะกระเตื้องขึ้นตามการขยายตัวของปริมาณการจำหน่ายน้ำตาลโดยรวม แต่การพึ่งพาตลาดต่างประเทศในสัดส่วนสูง ทำให้ธุรกิจยังคงเผชิญความผันผวน
รายได้มีแนวโน้มทยอยปรับดีขึ้นตามการขยายตัวของความต้องการบริโภค โดยมีปัจจัยสนับสนุน
นอกจากนี้ การมีห่วงโซ่อุปทานที่เข้มแข็ง มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์หลากหลาย และมีการลงทุนในอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (จากการใช้ผลพลอยได้และวัสดุเหลือใช้มาเป็นวัตถุดิบ) จะช่วยให้โรงงานน้ำตาลสามารถทำกำไรได้ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การปรับเพิ่มขึ้นของต้นทุนจากการแย่งซื้ออ้อยจากชาวไร่ในราคาที่สูงกว่าราคาอ้อยขั้นต้นอาจกดดันให้โรงงานน้ำตาลบางแห่งประสบภาวะขาดทุนและขาดสภาพคล่องได้
ที่มาข้อมูล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง