การประชุม COP29 ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จบลงเเล้ว สิ่งที่น่าสนใจเเละเป็นที่ถกเถียงกันคือ การที่ประเทศต่างๆ ได้ร่วมตกลงตั้งเป้าหมายการเงินด้านสภาพอากาศประจำปีไว้ที่ 300,000 ล้านดอลลาร์ ตัวเลขนี้อาจดูมหาศาลในมุมของประเทศร่ำรวยที่มอบให้กับประเทศกำลังพัฒนา แต่ในมุมของประเทศเหล่านี้กลับมองว่ายังไม่เพียงพอที่จะต่อสู้กับวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ พวกเขาประเมินว่าต้องการ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
แต่หากเรานำมาเปรียบเทียบกับสิ่งที่โลกใช้จ่ายในด้านต่างๆ จะเห็นภาพชัดขึ้นว่าเป้าหมายนี้มีขนาดเท่าใด
เทียบกับการใช้จ่ายทางทหารทั่วโลก
ตามรายงานของสถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติสตอกโฮล์ม ในปี 2023 โลกใช้เงินในด้านการทหาร 6.7 พันล้านดอลลาร์ต่อวัน ซึ่งหมายความว่า 300,000 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นการใช้จ่ายทางทหารเพียง 45 วัน
เทียบกับน้ำมันที่โลกใช้ใน 40 วัน
เวลานี้ความต้องการน้ำมันดิบทั่วโลกเฉลี่ย 100 ล้านบาร์เรลต่อวัน ด้วยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ณ สิ้นปี 2023 ตัวเลข 300,000 ล้านดอลลาร์เทียบเท่าราคาน้ำมันที่โลกใช้ในเวลาเพียง 40 วัน
ทรัพย์สินสุทธิของ อีลอน มัสก์ ชายที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ณ ปลายปี 2023 อยู่ที่ 321,700 ล้านดอลลาร์ มากกว่าเป้าหมายการเงินด้านสภาพอากาศเพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ GDP ของชิลี ผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2023 อยู่ที่ 335,500 ล้านดอลลาร์ ใกล้เคียงกับตัวเลขนี้ ขณะที่งบช่วยเหลือกรีซในช่วงวิกฤตหนี้ระหว่างปี 2010-2018 ใช้เงิน 260,000 ล้านยูโร
เทียบกับความเสียหายจากพายุและผลกระทบทางธรรมชาติ
พายุเฮอริเคนแคทรีนาในปี 2005 ทำให้เกิดความเสียหายถึง 200,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่พายุเฮเลนในปี 2024 คาดว่าจะสร้างความเสียหายถึง 250,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า การเงินสภาพอากาศสามารถนำมาใช้ลดผลกระทบจากภัยธรรมชาติในอนาคตได้
มูลค่า ตลาดสินค้าฟุ่มเฟือย ทั่วโลกในปี 2024 อยู่ที่ 378,000 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าเป้าหมายนี้เล็กน้อย ในด้าน คริปโตเคอร์เรนซี เป้าหมายนี้เทียบเท่ากับ 75% ของมูลค่ารวมตลาด Ether หรือการใช้ Bitcoin เพียง 3 ล้านเหรียญ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้หากราคาขยับไปถึง 100,000 ดอลลาร์ต่อเหรียญ
การเงินด้านสภาพอากาศ
เป้าหมายการเงิน 300,000 ล้านดอลลาร์ต่อปีของ COP29 เป็นการส่งสัญญาณสำคัญที่โลกจะต้องลงทุนอย่างจริงจังเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แม้ตัวเลขนี้จะเทียบได้กับการใช้จ่ายในด้านอื่นเพียงบางส่วน แต่ความสำคัญอยู่ที่ผลกระทบระยะยาว การลดความเสียหายจากภัยธรรมชาติ การพัฒนาพลังงานสะอาด และการสร้างความมั่นคงให้กับโลกในอนาคต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง