เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ผู้เชี่ยวชาญด้านมาตรฐานและธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์และองค์กรระหว่างประเทศ อาทิ International Standard Organization (ISO) และ United Nations Center for Trade Facilitation and Electronic Business (UN/CEFACT) จึงเห็นร่วมกันว่าการพัฒนาเทคโนโลยีบนพื้นฐานของการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาและการใช้งาน Core Component Library (CCL) ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักร่วมกันของการพัฒนาซอฟต์แวร์และapplications และเป็นฐานในการทำ Data Harmonization และการปรับรูปแบบของระบบไปสู่การทำข้อมูลและแลกเปลี่ยนในลักษณะ Data Field ให้มากขึ้น เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากระบบได้อย่างสมบูรณ์มากที่สุด ทั้งในด้านของกระบวนการทางการค้า การเชื่อมโยงกับหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งจะทำให้สามารถใช้ข้อมูลเดียวกันได้ตลอด end-to-end supply chain และสามารถวิเคราะห์และใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลในลักษณะ Big Data ซึ่งถือเป็นประโยชน์สูงสุด
ผู้เชี่ยวชาญเห็นพ้องให้มีการกำหนดมาตรฐานของ Blockchain เพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างระบบย่อยที่พัฒนาขึ้นและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อ economic ecosystem และมีการนำเสนอ initiatives ที่สำคัญประกอบไปด้วย Blockchain White Paper Project ภายใต้ UN/CEFACT เพื่อพิจารณาแนวทางการใช้ประโยชน์จากมาตรฐานธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในปัจจุบัน