ปลากระพงจากสุราษฎร์ธานีมีชื่อมานานในฐานตลาดค้าส่ง ลือกันว่าด้วยความเค็มกร่อยในน้ำเลี้ยงปลา มีผลต่อความแน่นหนา ของเนื้อลิ้มรส ตลอดสิบปีมานี้โลจิสติกส์ ส่งขายไปได้ถึงเชียงใหม่เนื้อละเอียดสดหวาน
พ่อครัวที่รู้ดีถึงศักดิ์ส่วนปลากระพงจะกักกันราวท้องปลา’พง(ษ์) สุราษฎร์ไว้ให้แต่ลูกค้าผู้คุ้นเคย(จ่ายหนัก)
กระพงใหญ่พื้นท้องหนา_อย่าว่างั้นงี้เลย เอาทำแกงเหลืองปักษ์ใต้ โขลกเครื่องเสียให้ดีด้วยครกหินแกรนิตอ่างศิลา ไม้ตีพริกอย่าไปใช้ มันไม่ถึงเครื่องต้องใช้สาก_สากกะเบือแกรนิตหินแกร่งเท่านั้น ตำให้แหลกหินชนหิน เพื่ออับละลองเก็บกักความหอมในปวงสมุนไพรนั้นแตกออกรำเพยกลิ่น ค่อยละลายต้มแกงด้วยราวท้องปลากระพงเนื้อมันแก้ทางกันดีนัก
“ร้านชาวเรือ”_ย้ำว่าเรือ ที่เมืองนคร (ศรีธรรมราช) ทำแกงเหลืองพรรค์อย่างนี้ได้รสร้อนผ่าวถึงเครื่อง เขาเติมลูกเถาคัน Virginia creeper แลละม้ายมะขามป้อมผสมองุ่นลงไปเอารสปะแล่มเปรี้ยว แล้วยังใส่มันขี้หนูเกลาเปลือกแล้วให้สัมผัสหนึกนุ่มชุ่มน้ำแกง ชั่วแต่ว่าบางทีนักบริโภคที่ไวกว่ามักสั่งคว้าได้แกงเหลืองที่มีชิ้นพุงปลาไปกินเสียก่อน ทำให้ต้องชดเชยความผิดหวังด้วยการเรียกหาไข่ปลากระบอกปากพนังตากแห้งมาทอดกินเอามันเเกล้มเเกงเหลืองเนื้อปลากระพง
หน้า 22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,521 วันที่ 10 - 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562