เสาค้ำยัน ‘นายกฯตู่’
ตั้ง 4 คนคุมผบ.เหล่าทัพ
อื้ออึงกันทั่วราชดำเนิน-สนามเสือป่า-ราบ 11 เมื่อ “นายพล ส.” นายหนึ่งป้องปากตะโกนก้องป่าวร้องออกไปจาก บก.ทบ.ว่า “ผบ.ทบ.ไม่น่าจะได้เกษียณในปีนี้ แต่อาจจะมีการต่ออายุราชการออกไป”
ประโยคเดียวเสียวไปทั้งกองทัพ จากปากต่อปากขยายวงออกไปกว้างทั่วกองทัพไทย
เพราะปรากฎการณ์ต่ออายุราชการของ ผู้บัญชาการทหารบก ในประเทศไทยนั้นเคยมีประวัติศาสตร์ที่ไม่น่าจดจำ และการต่ออายุราชการ ผบ.ทบ.ในประเทศไทยเคยเกิดขึ้นเพียงแค่ 2 คน คือ จอมพลถนอม กิตติขจร และ จอมพลประภาส จารุเสถียร ที่มีการต่ออายุราชการในตำแหน่ง ผบ.ทบ.และ ผบ.สส.เพื่อรักษาฐานอำนาจเอาไว้คนละ 9-10 ปีเศษ จนนำมาซึ่งการนองเลือดในประเทศ
ที่ผ่านมาเคยมีความพยายามที่จะต่ออ่ยุ ผบ.ทบ.อีก 2 คน คือ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐบุรุษ กับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี แต่สุดท้ายก็ไม่บังเกิดผล
ปฏิบัติการด้านการข่าวในรอบนี้ ที่โยนไปใส่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2563 จึงสะท้านไปทั่วเหล่าทัพ และเป็นการโยนลูกระเบิดใส่ “บิ๊กแดง” ไปเต็มๆ ชนิดที่หลบอย่างไรก็มีแต่เสียกับเสีย
ทำไมจึงเกิดปรากฎการณ์เช่นนั้น....นังบ่าง ลูกอีชั่งซักตั้งคำถาม!
พรานฯพาทุกท่านมาดูฐานอำนาจทางทหารที่จะนำมาสู่การปรับเปลี่ยนในเดือนกันยายนนี้
30 กันยายน 2563 จะมีผู้ทำทางทหารและหน่วยงานความมั่นคง ที่เป็น “เสาค้ำยัน” รัฐบาลลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะพาเหรดกันเกษียณอายุราชการทีเดียว 4 ตำแหน่ง
1.พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด 2. “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. 3.พล.ร.อ.รือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการกรทหารเรือ 4. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.
ทั้ง 4 ตำแหน่งเป็นกำลังสำคัญที่จะมีการหารือกันเพื่อแต่งตั้งเสาค้ำยันใหม่ให้กับรัฐบาลนายกฯลุงตู่ และเป็นครั้งที่ 2 ที่ “พล.อ.ประยุทธ์” ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเป็นผู้จัดวางกำลังในการแต่งตั้ง “ผบ.” ร่วมกับสภากลาโหมด้วยตนเอง แทนที่จะเป็น “พี่ป้อม”
เดิมทีมีการวางกำลังกันไว้ชัดเจนว่า “บิ๊กบี้” พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. จะเป็นแคนดิเดท ผบ.ทบ.ต่อจาก “บิ๊กแดง” แน่นอน ตั้งแต่มีการขยับขึ้นมาจากเก้าอี้แม่ทัพภาคที่ 1 มาเป็น 5 เสือ ทบ.
ถึงขนาดมีการขยับตัวเก็งฝีมือดี “บิ๊กแก้ว” พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ที่มีอายุราชการ ศักดิ์ศรีฝีมือใกล้เคียงกันไปนั่งเป็นเสนาธิการทหาร ในกองบัญชาการกองทัพไทย เพื่อรอสไลด์ขึ้นเป็น ผบ.สส.แทน พล.อ.พรพิพัฒน์
ทว่านับตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม หันไปใช้งาน “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รอง ผบ.ทบ.ที่เป็นรุ่นพี่ของ “พล.อ.ณรงค์พันธ์” ไปช่วยงานในฐานะตัวแทนของ ศปก.ทบ.โควิด ที่ ศบค.ทำเนียบฯ ทุกวัน จนเกิดข่าวลือเรื่องการหาตำแหน่งลงในอัตราจอมพล ซึ่งในบก.ทบ.นั้นอาจจะไม่เหมาะ แต่อาจเหมาะในตำแหน่ง ผบ.สส.
เพื่อคุมกองทัพไทย
ขณะที่ “บิ๊กบี้” พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ตัวเก็งที่บิ๊กแดงจัดวางแผ้วทางทางให้เป็นผบ.ทบ.กลับเงียบเชียบตามสไตล์ ท.ทหาร อดทน
ถ้าเป็นเงื่อนไขแบบนี้ข่าวในกองทัพไทยจึงขยายวงออกไปว่า จะมีการส่งตัว “บิ๊กแก้ว” พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ที่ถูกโยกไปนั่งทำงานเมื่อปีก่อนหน้าจะหวนคืนกลับมาชิงตำแหน่ง ผู้บัญชาการหารบก
แค่นี้แหละ ข่าวเรื่อง “บิ๊กแก้ว” พล.อ.เฉลิมพล จะคัมแบคมานั่งเก้าอี้ผบ.ทบ. เสียบแทน “บิ๊กบี้” พล.อ.ณรงค์พันธ์ สนั่นลั่นทุ่ง
เพราะเก้าอี้ ผบ.ทบ.คือ เดิมพันเก้าอี้ “สร.1” ของ “บิ๊กตู่” และเป็นเสาค้ำยันการทำงานของรัฐบาลชุดนี้
เมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้จึงเป็นที่มาของการโยนระเบิดใส่บิ๊กแดงว่าจะต่ออายุราชการ
พ้นตำแหน่งผบ.ทบ.ตำแหน่งผู้นำด้านความมั่นคงก็จะขยับแข่งขันกันอีกหลายคน
ไปดูการวางคนในมือ “นายกฯลุงตู่” ที่ว่ากันว่ารอบนี้จะมีการค้ำบัลลังก์อย่างแข็งขัน ในมือนายกฯตู่!
ว่าที่ ผบ.สส. มีการแข่งขันกันหนักหน่วง 2 คน คือ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย กับ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รอง ผบ.ทบ.
ว่าที่ ผบ.ทบ.มีการแข่งขันกัน 2 คน ตัวเต็งเก็ง 1 มาตั้งแต่ปีมะโว้คือ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. แข่งกับ “บิ๊กแก้ว” พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย
ว่าที่ ผบ.ทร นั้นมีการแข่งขันกันหนักหน่วง 2 คนคือ บิ๊กอุ้ย-พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้ช่วย ผบ.ทร. ตัวเต็งกับ บิ๊กช่อ-พล.ร.อ.ช่อฉัตร กระเทศ รอง ผบ.ทร.
ว่าที่ ผบ.ตร. จะมีการแข่งกันของ 2 นายพล ที่เก่งกันคนละด้าน ชำนาญกันคนละแบบ ตัวเต็งคือ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. ที่นายกฯใช้งานกับนายตำรวจมือดี ฝีมือเจ๋งอีกคน พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร.
การจัดวางกำลังพลด้านความมั่นคงรอบนี้ จึงแข่งขันกันหนักหน่วง เพราะตั้งคราวนี้รอบเดียวใครขึ้นหัวขบวน อาจลากยาวในการนั่งเก้าอี้ไป 2-3 ปี เป็นอย่างต่ำ
บัลลังก์เก้าอี้นายกรัฐมนตรี สถานะรัฐบาล สถานะของประเทศไทย อยู่ไม่ไกลเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมนี้รู้กัน!