ปรากฏการณ์ของดวงดาวในปีหน้าฟ้าใหม่ เริ่มจะส่องแสงสดใสขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะดาวพฤหัส(๕) จะเริ่มส่องแสงสุกสกาวสว่างไสวมากขึ้น หลังจากปีที่ผ่านมา แสงของดาวพฤหัส ไม่สว่างเท่าที่ควร แถมเดินหน้าถอยหลังอยู่ตลอดเวลา
สารพัดเรื่องราว ที่ถาโถมเข้ามา ทั้งโรคภัยไข้เจ็บและเศรษฐกิจ ตลอดทางวิกฤตทางการเมือง พอถึงปีหน้า 2564 เริ่มต้นตั้งแต่ 1 มกราคม ไปจนถึงวันที่ 28 มีนาคม 2564 อาจกล่าวได้ว่าเป็นวาระสุดท้ายที่ดาวพฤหัสอับแสง
พอเริ่ม 29 มีนาคม 2564 ดาวพฤหัสเดินขึ้นปกติไปสู่ราศีกุมภ์ ซึ่งเป็นภพลาภะ นั่นหมายความว่าจะมีข่าวดีๆ เข้ามาสู่ประเทศมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ อาจได้ผู้ที่แก้ปัญหาเศรษฐกิจเก่งเข้ามาร่วมงาน จนทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นในพริบตา ตลอดทั้งดาวเสาร์ยังยืนหยัดราศีมังกรหรือภพกัมมะ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า สิ่งที่เกี่ยวกับอิฐหินปูนทรายอสังหาริมทรัพย์ ตลอดทั้งตลาดหลักทรัพย์ ในด้านอสังหาจะเริ่มกลับมาบูมมีผู้คนจากต่างประเทศเริ่มมาลงทุนมากยิ่งขึ้น จึงเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เศรษฐกิจฟื้น และดวงดาวจะคงอยู่ในภาวะแบบนี้ไปจนถึงสิ้นปี 2564
อย่าถามถึงโรคระบาดโควิด ซึ่งติดกันระนาว เมื่อดาวย้าย สิ่งที่จะบอกได้ก็คือ โรคโควิดจะค่อยๆ มลายจางหายไป ตลอดทั้งเมื่อย่างเข้าสู่ฤดูร้อน โรคระบาดร้ายร้ายจะหายไปพลัน กระทั่งจนเข้าพรรษาและออกพรรษา ก็ไม่กลับมาอีกเลย
ในส่วนทางด้านการเมืองนั้น ยังมีความผันผวนสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปมา ภายในรัฐนาวาของผู้นำ ที่ชื่อบิ๊กตู่เช่นเดิม บ้านเมืองเริ่มสงบ เป็นปกติมากขึ้น สิ่งที่ไม่เข้าใจซึ่งกันและกันค่อยๆ คลี่คลายออกไป ส่วนใครที่มีจิตใจ ที่ไม่มีซึ่งคุณธรรม จะค่อยๆ สลายหายไป กาลเวลาในเวทีการเมือง
ช่วงกลางปีเราอาจสูญเสียอดีตนักการเมืองที่มีคุณธรรมและมีชื่อเสียง ซึ่งย่อมเป็นไปตามสัจธรรม ส่วนนักการเมืองพวกปากว่าตาขยิบนั้นอาจมีการแตกเหล่าแตกกอเพราะแตกคอกันในเรื่องอำนาจและผลประโยชน์
พระสงฆ์องค์ธรรมบางรูปจะมีชื่อเสียงได้รับการยกย่องจากนานาชาติในเรื่องคุณธรรมและกรรมแห่งคุณประโยชน์
ไฟฟืนอาจกลุกเป็นช่วงๆ เป็นอัคคีภัยที่มาจากเหตุการณ์ตามเหตุปัจจัยแต่ไม่ใช่ฝีมือมนุษย์ธรรม
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปี 2564 ปีที่คนไทยจะสามัคคีกันมากขึ้น ปีที่เศรษฐกิจจะฟื้นดีขึ้น ปีที่การค้าการขายจะเติบโตขึ้น ความสุขทั้งปวงก็จะปรากฏทั้งแผ่นดิน