พวกอเมริกัน-พวกแคนาเดี้ยน เขายืนยันว่ากุ้ง (เอ้ หรือว่า กั้ง) ล็อบสเตอร์ของเขาเป็นคนละชั้นกับกุ้งโขน-กุ้งมังกรบ้านเรา ของเขาต้องอยู่ทะเลเย็นเนื้อแน่นเป็นยวงใย อบสุกเข้าให้แล้วต้องจิ้มเนยละลาย รับประทานไปต้องจุ๊ปากไปด้วยว่าอร่อยลิ้นพอๆกับแพงราคา!
อีทีนี้พวกเราชาวกุมารผมดำเล่า ยามจะได้ Lobster หัวหนามมาขบลิ้มก็หาใช่ว่าจับมากินโดยง่ายไม่ยากเย็นซะที่ไหน
พรานทะเลว่า ปวงพวกมันพากันเดินเป็นสายอยู่ใต้พระสมุทรท้องพื้นทราย ยามอยากจะได้มาเสพกินต้องลงแรงเป็นหนักหนา กลั้นใจดำผุดมาคว้า หงายขึ้น_เพื่อนก็ดีดหางสะบัดหลุด_อด!
ได้มาแล้วมีกรรมวิธีกินอีก เอามีดคมแทงซอกหลังคอกุ้งโขนนั้นเสียเอาเลือด จักได้ของเหลวสีใสเจือเทาออกมาเอาแก้วรองไว้จากนั้นเติมน้ำซ่ารสตะไคร้ในนาม สไปร์ท/เซเว่นอัพ ลงไปตาม คนๆเข้ากัน อย่ารอให้จับตัวได้วุ้น กระดกกรึ๊บวาบลงคอ บำรุงกำหนัดเพศรสดีนักแล (คนขายว่า)
ส่วนเนื้อในตัวมันนั้นเอามีดคมผ่ากรีดเปลือกแล้วหั่นแล่บางๆกินดิบหนุบกรับปลุกสัญชาติญานป่าในตัวเรา โดยพรางความเถื่อนไพรนั้นด้วย น้ำปลาถั่ว(โชยุ)กับหัววาซาบิขูดหนังปลาฉลาม_หากว่ามีสัญชาติญี่ปุ่นหรือด้วยน้ำปลาไส้ตันตำกระเทียมพริกสดบีบน้ำมะนาวในนามทิพย์รสซี้ฟู้ด_หากว่ามีสัญชาติไทย
ตะเกียบคีบหนั่นเนื้อวาวใสนั้นแกว่งลงในถ้วยน้ำจิ้มสองชนิดนี้ก่อนส่งเข้าปาก กำซาบรสแท้แห่งเนื้อมหาสมุทรอันสัมผุดมาโผล่ในเนื้อกุ้งโขนหัวมังกรแสนหวาน ข้างหัวเอาลวกน้ำร้อนล้วงกินโพรงมันกุ้งชุ่มปากมันคอ จะไปรอจิ้มมันเนยฝรั่งละลายอยู่ใย _พระเจ้าพี่
แพกระชังกลางอันดามันมีอยู่3-4 แพ ละแวก เขาทองเมืองกระบี่ ขี่เรือหัวโทงไปไม่ถึง10นาทีเขาก็พร้อมจักให้บริการตั้งโต๊ะเท้งเต้งให้ได้ลิ้มกันกลางทะเล
กุ้งโขนกุ้งมังกร 7 สีมีสนนราคาแพงสักหน่อยแต่ยังประหยัดกว่าภัตตาคารกลางกรุงขึ้นเหลาเท่าตัวก้ามเอาเผา/เอาออกทุบเขียงบีบเนื้อกินได้อีก ปลามงเนื้อมันๆก็มีล้วงขึ้นมาจากทะเลก็กินดิบโดยแล่ทำซาซิมิได้อย่างวิเศษได้หวานเนื้อในกลิ่นคาวทะเลคมคาย หรือใช้ไฟเปลวเผาเอาเนื้อขาวมาบำเรอปาก_ของสดทำสุกให้รสชาติวาววับในโพรงปากคนเคี้ยว
กุ้งโขนต่ำศักดิ์ลงมากว่า แบบ 7 สี เช่นว่ากุ้งมังกรแดงเนื้ออาจหยาบนิดแลไม่หวานเท่าแต่ก็เอาน่า...ราคาเยาว์กว่าครึ่ง ไหนจะปลาหมึกทำสดทำเผา แมงดาทะเลไข่แน่นหนับ
กินโดยซาบซึ้งในความอุดมแห่งทรัพยากรทางทะเลบ้านเรา ท่ามกลางการแกว่งไกวโอบกอดของMother of the sea_พระมารดามหาสมุทรด้วยระลอกคลื่นโยกไหว ก็บอกแล้วไงว่านั่งกินในแพฯ
นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,641 หน้า 23 วันที่ 3 - 6 มกราคม พ.ศ. 2564