ขณะที่ BBVA Research, November 2024 ประเมินว่า ปี 2025 เศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 4.1% ถือว่าแผนฯ 14 ขยายตัว “ต่ำสุด” ตั้งแต่แผน 1 (1953-1957) (ยกเว้นแผน 2) เป็นต้นมา ที่ผ่านมาเศรษฐกิจจีนขยายตัวเฉลี่ยแผนฯ ละ 6-7% ปี 2025
เศรษฐกิจจีนเจอกับปัญหาใหญ่ “2 เรื่อง” คือ หนี้ในหน่วยงานท้องถิ่น หรือรัฐบาลท้องถิ่นจีน และนโยบายทรัมป์ 2.0 ประเด็นทั้ง 2 จะกระทบต่อตัวแปรเศรษฐกิจจีนทุกมิติ
ปี 2024 รัฐบาลจีนได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2 ครั้งใหญ่ คือ 1.กันยายน 2567 ธนาคารจีน (PBOC) กระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ วงเงิน 1 ล้านล้านเหรียญ คิดเป็นสัดส่วน 6% ของGDP มากสุดในประวัติศาสตร์จีน มากกว่าปี 2008 (วิกฤตการเงินโลกที่จีนกระตุ้นด้วยวงเงิน 5 แสนล้านเหรียญ) และ 2.พฤศจิกายน 2567 กระทรวงการคลังจีน กระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.4 ล้านล้านเหรียญ ในระยะเวลา 5 ปี เพื่อแก้ปัญหาหนี้รัฐบาลท้องถิ่นจีน
ต้องมาดูกันว่า เงินที่กระตุ้นเศรษฐกิจจีนรวม เพียงพอพยุงเศรษฐกิจจีนให้ดีขึ้นหรือไม่ในปี 2025 และมูลค่าความเสียหายจากหนี้และทรัมป์ 2.0 จะมีเท่าไร จาก 1.หนี้ภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่มีมาตั้งแต่ปี 2021 อสังหาริมทรัพย์มีสัดส่วน 30% ของ GDP จีน (IMF รายงาน GDP จีน ปี 2024 อยู่ที่ 18 ล้านล้านเหรียญ สหรัฐฯ 28 ล้านล้านเหรียญ)
ปัญหาของอสังหาริมทรัพย์คือ “ปริมาณมากเกินความต้องการ (Oversupply)” เช่น คอนโดมิเนียมที่ขายไม่ออกอยู่ในเมืองชั้น (Tier) 3-5 ซึ่งเป็นระดับการพัฒนาเมืองจากกลางไปต่ำสุด ขายไม่ออกเป็นหลักล้านยูนิต ทำให้ภาคก่อสร้างซึม การผลิตเหล็ก ปูนซิเมนต์และวัสดุอื่น ๆ ลดลง หนึ้รวมทั้งหมดของบริษัทอสังหาริมทรัพย์และสถาบันการเงิน คาดว่ากว่า 1 ล้านล้านเหรียญ (หนี้ 5-7 แสนล้านเหรียญ อยู่ในบริษัท Evergrade และ Country Garden)
2.หนี้หน่วยงานท้องถิ่น อยู่ที่ 80% ของ GDP (หนี้บริษัทเอกชนอยู่ที่ 150% หนี้ครัวเรือน 40% และหนี้รัฐบาลกลางอยู่ที่ 35%)
ด้วยนโยบายสร้างเมือง โครงสร้างพื้นฐาน และที่อยู่อาศัย กระทรวงการคลัง จีงได้ปรับกฎระเบียบให้ท้องถิ่นมีอำนาจใจการบริหารการเงิน ทั้งกู้ยืม (ออกพันธบัตร และกู้จากธนาคารพาณิชย์) และหารายได้จากพัฒนาที่ดิน ทำให้การออกพันธบัตรหน่วยงานท้องถิ่นเพิ่มจาก 1.4 แสนล้านเหรียญ เป็น 7 แสนล้านเหรียญ
โดยร้อยละ 30 เป็นพันธบัตรโครงสร้างพื้นฐาน 20 เป็นการขนส่ง 10% เป็นที่อยู่อาศัย 9% เป็นเกษตรกรรม เรียกว่า “Land Finance” มี 3 กลุ่มที่เกียวข้องคือ หน่วยงานท้องถิ่น สถาบันการเงิน และบริษัทอสังหาริมทรัพย์
ตั้งแต่ปี 2001 เป็นต้นมา รายได้กับรายจ่ายหน่วยงานท้องถิ่นยิ่งห่างขึ้น ปี 2001 รายจ่ายสูงกว่ารายได้ 15% ปี 2022 ห่างเพิ่มเป็น 30% หนี้ท้องถิ่นเพิ่มจาก 10% เป็น 80% ต่อ GDP นาย Ting Lu นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคาร Nomura ของญี่ปุ่นประเมินว่าหนี้หน่วยงานท้องถิ่นจีน มีมูลค่าสูงถึง 7 - 8.5 ล้านล้านเหรียญ แต่กระทรวงการคลังจีนประเมินว่าหนี้อยู่ที่ 2 ล้านล้านเหรียญ
3.ทรัมป์จะเก็บภาษีสินค้าจีน บริษัททางการเงิน BBVA (Banco Bilbao Vizcaya Argentaria) ของสเปน ประเมินว่าหากทรัมป์เก็บภาษีสินค้าจีน 10-60% ทำให้สินค้าส่งออกจีนไปสหรัฐฯ ลดลง 12-15% มูลค่า 6-7 หมื่นล้านเหรียญ GDP ลดลงไป 0.9-1.1%
รวมมูลค่าเศรษฐกิจจีนจาก 2 ปัจจัยอยู่ที่ 8 ล้านล้านเหรียญ (อสังหาริมทรัพย์ 1 ล้านล้านเหรียญ) + (หนี้หน่วยงานท้องถื่น 7 ล้านล้านเหรียญ) กับเงินกระตุ้นเศรษฐกิ 2.4 ล้านล้านเหรียญ ดูท่าจะไม่เพียงพอในการเยียวยาเศรษฐกิจจีนปี 2025 ครับ