โอกาสที่ โดนัลด์ ทรัมป์ จะได้เป็นประธานาธิบดีคนต่อไปเพิ่มขึ้น หลังจากที่เขารอดชีวิตจากความพยายามลอบสังหาร และเลือก เจดี แวนซ์ อดีตนักวิจารณ์ให้เป็นคู่หูใหม่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีในอีกสองวันต่อมา หลายฝ่ายกังวลว่า หาก โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อาจมาพร้อมกับ สงครามการค้าระลอกใหม่
สหรัฐฯ เป็นพันธมิตรทางการค้ารายใหญ่ที่สุดของจีน ขณะที่สหภาพยุโรปตามหลังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในฐานะพันธมิตรทางการค้ารายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคของจีน ทรัมป์ได้เพิ่มภาษีสินค้าจีนเมื่อดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2018 และขู่ว่าจะขึ้นภาษีเป็น 60% หากได้รับการเลือกตั้งอีกครั้งในช่วงเดือน พ.ย.นี้ ซึ่งอาจเป็นความเสี่ยงด้านการเติบโตที่ลดลงอย่างมาก ต่อจีน ตามที่โกลด์แมน แซคส์กล่าว
นักเศรษฐศาสตร์จีนของโกลด์แมน แซคส์ กล่าวว่า ขณะนี้การส่งออกเป็นจุดสำคัญในเศรษฐกิจจีน ผู้กำหนดนโยบายควรเตรียมพร้อมรับมือ โดยเฉพาะในเวลานี้วาทกรรมเรื่องภาษีนำเข้าไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในสหรัฐฯ แต่ยังรวมถึงคู่ค้าสำคัญอื่นๆ ของจีนด้วย ซึ่งอาจส่งผลต่อการเติบโตที่ยั่งยืนของจีนในระยะยาว
ท่ามกลางความกังวลนี้ เศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญความท้าทาย โดยในไตรมาสที่สองมีการเติบโตเพียง 4.7% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้มีเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเติบโต 5% ตลอดทั้งปี ซึ่งจนถึงขณะนี้ จีนยังคงชะลอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผู้นำระดับสูงของประเทศจะประชุมกันที่กรุงปักกิ่งในสัปดาห์นี้เพื่อประชุมครั้งที่สามซึ่งคาดว่าจะกำหนดเป้าหมายนโยบายเศรษฐกิจในระยะยาว
นักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ๊ปมองว่า รัฐบาลจีนอาจยังไม่เร่งออกมาตรการกระตุ้นในทันที โดยอาจยอมรับความอ่อนแอในระยะสั้นเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของภาคอสังหาริมทรัพย์ และเก็บทรัพยากรไว้รับมือความไม่แน่นอนในอนาคต
ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ยังคงตึงเครียด โดย เจดี แวนซ์ ผู้สมัครรองประธานาธิบดีของทรัมป์ ได้กล่าวว่าจีนคือ ภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดต่อสหรัฐฯ ซึ่งทางการจีนได้ตอบโต้ว่า ทำให้จีนเป็นประเด็นในการเลือกตั้งของสหรัฐฯ เสมอมา
แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากนโยบายของทรัมป์ แต่ก็มีมุมมองที่แตกต่างออกไป Corevalues Alpha เชื่อว่าจีนอาจได้ผลลัพธ์ทางการค้าที่เป็นบวกภายใต้การนำของทรัมป์ เนื่องจากลักษณะนิสัยการเจรจาต่อรองของเขา โดยชอบที่จะตั้งเกณฑ์ไว้ต่ำๆ แล้วค่อยๆ ต่อรองขึ้นไป
เมื่อพูดถึงนโยบายต่างประเทศ สะท้อนให้เห็นว่าการดำรงตำแหน่งอีกสมัยของโจ ไบเดนก็จะหมายถึงการคงภาษีนำเข้าต่อไป รวมถึงการก้าวก่ายประเด็นภายในของจีนซึ่งจะไม่ช่วยปรับปรุงเศรษฐกิจจีนหรือความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีนอย่างมีนัยสำคัญ นั่นหมายถึง ความร่วมมือระหว่างทรัมป์กับจีนจะมีโอกาสที่ชัดเจนมากขึ้นสำหรับผลลัพธ์เชิงบวกต่อจีน
แต่ท้ายที่สุด ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไร จีนยังคงต้องเผชิญความท้าทายในการปรับตัวและรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์โลกและความสัมพันธ์กับประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ