การเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ....ที่ผ่านมา ได้จุดประกายการถกเถียงครั้งสำคัญในสังคมไทย เกี่ยวกับความพร้อมของประเทศในการมีกาสิโนถูกกฎหมาย ประเด็นนี้ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของการพนันเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และ ผลกระทบทางสังคมในวงกว้าง
ผลการรับฟังความคิดเห็นสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการสร้างสมดุล ระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจ และการปกป้องสังคม และกลายประเด็นสำคัญที่มีการหยิบยกขึ้นมาเป็นข้อเสนอแนะอย่างกว้างขวาง เช่น การกำหนดสัดส่วนผู้ถือหุ้นไทย การจำกัดพื้นที่กาสิโน และการจัดตั้งกองทุนเพื่อเยียวยาผลกระทบทางสังคม
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในแง่ของโอกาสทางเศรษฐกิจ การมีสถานบันเทิงครบวงจร อาจนำมาซึ่งการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ การสร้างงาน และการเพิ่มรายได้ภาษีให้แก่รัฐบาล หากบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ อาจนำไปสู่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ได้
นอกจากนี้ ยังช่วยยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยให้มีความหลากหลายและแข่งขันได้ในระดับนานาชาติ
แต่ประเด็นเรื่องการกระจายรายได้และผลประโยชน์สู่ท้องถิ่น ก็เป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่ต้องให้ความสำคัญ การกำหนดสัดส่วนการจัดสรรรายได้ระหว่างรัฐบาลกลางและท้องถิ่นอย่างเหมาะสม จะช่วยให้ชุมชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง และอาจช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจระหว่างภูมิภาคได้เช่นกัน
การพิจารณาเรื่องสถานที่ตั้งของสถานบันเทิงครบวงจร ก็เป็นประเด็นสำคัญ การเลือกพื้นที่ที่มีศักยภาพทางการท่องเที่ยวอยู่แล้ว เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ หรือ พัทยา อาจช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในพื้นที่นั้นๆ แต่ก็ต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อวิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่นด้วย
ในด้านการกำกับดูแล การสร้างระบบธรรมาภิบาลที่เข้มแข็ง โปร่งใส และตรวจสอบได้ เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง การกำหนดสัดส่วนผู้ถือหุ้นไทย การป้องกันการใช้นอมินีต่างชาติ และการกำหนดมาตรการต่อต้านการฟอกเงินที่เข้มงวด จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นทั้งต่อนักลงทุนและสาธารณชน
นอกจากนี้ การพิจารณาเรื่องการให้สินเชื่อแก่ผู้เล่น และการกำหนดค่าธรรมเนียมการเข้าใช้บริการสำหรับคนไทย ก็เป็นประเด็นที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันปัญหาหนี้สินและการติดการพนันที่อาจเกิดขึ้น
การตัดสินใจในเรื่องนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของประเทศไทย ที่อาจส่งผลกระทบในวงกว้างทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการศึกษาวิจัยอย่างละเอียด รอบด้าน และเป็นกลาง เพื่อประเมินทั้งผลได้และผลเสียที่อาจเกิดขึ้น
เราเชื่อว่าการนำเสนอข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นกลาง เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้สังคมไทยได้ตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อเท็จจริง ไม่ใช่อารมณ์ หรือ ความเชื่อส่วนบุคคล
การเปิดพื้นที่ให้ทุกฝ่ายได้แสดงความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนมุมมองอย่างสร้างสรรค์ จะช่วยให้เกิดการพัฒนานโยบายที่สมดุลและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติในระยะยาว
หน้า 6 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 44 ฉบับที่ 4,034 วันที่ 10 - 12 ตุลาคม พ.ศ. 2567