“เศรษฐา”ระวังตกม้าตายด้วยปัญหาข้อกฎหมาย

*** นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน คาบนี้มีเรื่องให้ระทึกเป็นระยะๆ โดยเฉพาะ ในประเด็นกฎบัตร กฎหมาย ลื่น ลั่น ตั้งแต่ไปตั้งเอาทนายพิชิต ชื่นบาน มาเป็นรัฐมนตรีทั้งที่คุณสมบัติไม่เคลียร์ให้ชัดก่อน เรื่องก็เลยลามพ่วงเอาคนเสนอตั้ง ที่ต้องไปแก้ต่างเอากับศาลรัฐธรรมนูญ มีเวลาตั้งเรื่องสู้นิดหน่อยในข้อกฎหมาย แต่จะตั้งถูกเรื่องหรือไม่ อันนี้ต้องไปลุ้นกันเอา ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก ดั่งสำนวนไทยในเรื่องเกี่ยวพันข้อกฎหมาย 

*** ว่าด้วยเรื่องกฎหมายที่เข้าข่ายละอ่อน ก็เป็นเรื่องสั่งให้ บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกจากราชการไว้ก่อน ตามที่เสนอมาโดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการผบ.ตร. เรื่องของเรื่องมีว่าสำนักงานกฤษฎีกา คณะกรรมการกฤษฎีกา คณะ 2 ฟันเปรี้ยงมาว่า การสั่งให้ข้าราชการตำรวจรายนี้ออกจากราชการไว้ก่อน หากเป็นการปฏิบัติตามคำแนะนำของคณะกรรมการสอบสวนที่ตั้งขึ้น ย่อมจะทำให้การพิจารณาเหตุแห่งการกระทบสิทธิของผู้นั้น และความจำเป็นที่จะต้องสั่งให้ผู้นั้นออกจากราชการไว้ก่อนชอบด้วยกระบวนการของกฎหมายและเป็นธรรม ชัดใสอยู่พอสมควรในช่องนี้ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยกับให้ออกราชการไว้ก่อนวันเดียวกัน ไม่ชอบธรรม

*** แถมพ่วงในข้อสังเกต ในการนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงมีพระบรมราชโองการ โดยนายกฯ เป็นผู้รับสนอง นายกฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงมีหน้าที่ต้องตรวจสอบและรับรองความถูกต้องของการสั่งให้ข้าราชการออกจากราชการไว้ก่อนอย่างรอบคอบให้เป็นที่ยุติเสียก่อน กฤษฎีกาเขาก็เตือน จะทำอะไรก็ให้ชัด ให้เคลียร์ก่อนนะ ดูเหมือนนายกฯ นิดจะรู้ตัวว่าอ่อนกฎหมาย ไร้มือฉมังในการช่วย จึงไปไหว้วอน ร้องขอให้ วิษณุ เครืองาม เจ้าของฉายา เนติบริกร เจ้าของวาทะลือลั่น อภินิหารกฎหมาย มาเป็นตัวช่วย อันเหมือนสัญญาณบ่งชี้ไม่ไหวแล้ว บางเรื่องจำต้องลืมอดีต ขอใช้บริการก่อนปะไรไป ต้องไม่ลืมว่ามีหลายเรื่องที่ต้องฝ่าด่านกฎหมาย ทั้งเรื่องการบริหาร การแก้สัญญาสัมปทาน ทั้งเรื่องตัว เรื่องบริหารงาน มีเรื่องให้ฉิวเฉียด ตีความ แหกด่านทั้งนั้น

*** เรื่องเศรษฐกิจปากท้องก็เป็นปัญหาพาให้วุ่น เรื่องหนี้ เรื่องเศรษฐกิจภาพรวม เรื่องราคาพืชผลเกษตรตกตํ่า เรื่องค่าครองชีพ พุ่งเป้าเข้าหารัฐบาลทั้งนั้น เมื่อราคาปาล์มตกตํ่าถึงขีดสุด ก็มีเสียงออกมาจากเกษตรกรที่พวกเขาอยู่ไม่ได้ ชาวสวนปาล์มจะอยู่อย่างไร เมื่อต้นทุนต่อกิโลอยู่ที่ 3.20-3.50 บาท (อันนี้ต้นทุนรายย่อยที่มีพื้นที่ผลิต 10-15 ไร่เมื่อ 5-6 ปีก่อน ) แต่ขายได้แค่ 3.60-3.90 บาท ตั้งลำแก้กันดี เดี๋ยวจะลุกเป็นไฟเอาว่ารัฐไม่ดูดำดูดี การสั่งให้โรงสกัดรับซื้อที่ 4.50 บาทต่อก.ก.ของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์นั้น ต้องทำให้ได้จริง เป็นราคาประกาศ ราคาแนะนำ ราคาขอความร่วมมือ 

เห็นกันมาเยอะ เมื่อชาวบ้านขนผลผลิตถึงลาน จะขายตามราคาประกาศ เจอลานสวนกลับใครประกาศให้ไปขายคนนั้น ขบให้แตกเรื่องปาล์มปัญหาอยู่ตรงไหน นโยบายชักเข้าชักออกเรื่องไบโอดีเซล การบริหารจัดการสต๊อก กินกับเผานี่ก็ประการหนึ่ง การบริหารจัดการตลาดนี่ก็ประการหนึ่ง ที่บริหารไม่ได้เรื่องราคาตลาดโลกอันนี้ก็ต้องยอมรับ แต่ถ้าทำอันแรกได้ ปัญหาจะเบาบางลง ที่สำคัญคือได้เก็บรับบทเรียนแต่ละรอบปีหรือไม่ ไม่ใช่พอราคาพุ่งสูง ฉวยโอกาสเลิกนั่น เลิกนี่ ทันที หนทางบรรลัยก็ตามมาพลัน

*** บินไปฮ่องกงแบบด่วนๆ เช้าไปเย็นกลับ นายกฯนิด ไปร่วมงาน UBS Asian Investment Conference (AIC) 2024 การรวมตัวของภาคธุรกิจ นักลงทุนจากสถาบันการเงินทั่วโลก และบุคคลที่มีชื่อเสียงในภาคธุรกิจ มากกว่า 2,000 ราย ไปกล่าววิสัยทัศน์ ขับเคลื่อนให้ไทยเป็นศูนย์กลางที่ครอบคลุมทั้งด้าน การบิน ซึ่งไทยจะอัพเกรดสนามบินที่มีอยู่และสร้างสนามบินเพิ่มเติม เพื่อให้บริการมากขึ้น และเป็นทางเลือกของการคมนาคม การท่องเที่ยว ซึ่งปีหน้าจะเป็นปีสำคัญของการท่องเที่ยวไทย 

รัฐบาลอยู่ระหว่างการพูดคุยเพื่อจัดกิจกรรมระดับโลกจัดที่ประเทศไทย อาทิ Art Basel และ Formula 1 การรักษาพยาบาลและสุขภาพ การเกษตรและอาหาร การขนส่ง การผลิตยานยนต์แห่งอนาคต เศรษฐกิจดิจิทัล ศูนย์กลางทางการเงิน ต้องการทําให้ประเทศไทยเป็น “สถานที่ที่น่าอยู่” เป็นสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคของบริษัททางการเงิน ซึ่งเป็นด้านที่ไทยมีศักยภาพ ด้วยการสนับสนุนการลงทุนของรัฐบาล ประกอบกับศักยภาพของประเทศไทย ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า วิสัยทัศน์นี้อยู่ใกล้แค่เอื้อม ขอเชิญชวนทุกคนร่วมการเดินทางในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ศักยภาพของประเทศไทยที่มีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อนวัตกรรมและการเติบโต ทุกฝ่ายสามารถสร้างอนาคตที่เจริญรุ่งเรือง ยั่งยืน และครอบคลุมร่วม เพื่อประโยชน์ และความสำเร็จร่วมกัน และพร้อมเปิดประตูต้อนรับการลงทุนในประเทศไทยจากต่างชาติ