“จริยธรรม”ค้ำคออุปสรรคตั้ง“ครม.อุ๊งอิ๊ง 1”

*** รัฐบาลภายใต้การนำของ แพทองธาร ชินวัตร อุ๊งอิ๊ง นายกรัฐมนตรี คนที่ 31 กำลังตั้งลำใหม่ และเคร่งเครียดอย่างยิ่งกับการตั้งคณะรัฐมนตรี หลังศาลรัฐธรรมนูญฟัน เศรษฐา ทวีสิน ต้องพ้นตำแหน่ง ด้วยเหตุผิดจริยธรรมร้ายแรง กรณีตั้งรัฐมนตรีที่ผิดจริยธรรม นายกฯ ต้องรู้หรือควรรู้ อันนี้สิที่ทำให้หนักอกหนักใจ มาตรฐานจริยธรรมอยู่เหนือกฎหมาย

อันนี้สิกระทบใครหลายคน หรือ กระทบกับผู้อยากเป็นรัฐมนตรีหลายคน และคนเหล่านั้นส่วนใหญ่มีพลัง มีเสียงดัง เพราะมีผู้แทนประชาชนในมือ อยู่ในคอกทั้งสิ้น จะไม่ตั้งก็ไม่ได้ ครั้นจะตั้งก็ยากลำบาก เมื่อมีการตั้งไปแล้ว มีนักร้องไปร้องว่ารัฐมนตรีคนนั้น คนนี้ ผิดจริยธรรม ก็ทำให้นายกฯ ถูกสอยไปด้วย จำต้องดูแล้วดูอีก ตั้งผิดตัวขึ้นมาก็จะถูกสอยร่วงอีก

*** สัปดาห์นี้จึงมีความเข้มข้น ในการคัดสรร ตรวจเลือก ผู้ที่จะมาเป็นรัฐมนตรีร่วมคณะทำงานกับ นายกฯ อุ๊งอิ๊ง ปลายสัปดาห์น่าจะได้ตัวกันแล้ว โดยขั้นตอนแรก ให้แต่ละพรรคร่วมรัฐบาล เสนอชื่อผู้ที่จะเป็นรัฐมนตรีมาก่อน และมีทีมตรวจสอบคุณสมบัติ ตรวจสอบประวัติย้อนหลังไปใหม่ทั้งหมด

แม้จะเป็นรัฐมนตรีคนเดิม ชื่อเดิมก็ตาม ใครที่ประวัติไม่เคลียร์ชัดใสแจ๋ว อาจจะหลุด หรือให้ถอยไปอยู่ข้างหลัง เพื่อป้องกันปัญหาถูกบรรดานักร้องยื่นตีความตัดสินจริยธรรม อันมีผลให้นายกฯ และครม.หลุดทั้งคณะ ว่ากันว่าปลายสัปดาห์นี้ น่าจะเห็นหน้าเห็นตา “ครม.อุ๊งอิ๊ง 1” ก่อนที่จะนำรายชื่อขึ้นโปรดเกล้าฯ ในสัปดาห์หน้าและจะแถลงนโยบายได้ประมาณช่วงต้นเดือน ก.ย.

*** “ครม.อุ๊งอิ๊ง 1” จะมีการปรับเปลี่ยนในส่วนของพรรคเพื่อไทย แกนนำรัฐบาล โดยตำแหน่งหลักอย่าง รมว.คลัง ว่ากันว่ายังเป็นคนเดิม ส่วนรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย แทบทั้งหมดยังเป็นชื่อเดิม แต่อาจจะต้องตรวจสอบเข้มข้นกับบางรายชื่อ

พรรคพลังประชารัฐ ว่ากันว่ารัฐมนตรีสายหัวหน้าพรรค จะถูกเบรกไม่ให้นั่งในครม. ขณะที่รวมไทยสร้างชาติ รัฐมนตรีพิมพ์ภัทรา ที่ทำงานได้ดีที่สุดคนหนึ่งในจำนวนไม่กี่คน และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ของรัฐบาลเศรษฐา อาจจะต้องถอยเปิดทางให้เลขาธิการพรรคเข้ามานั่ง

ว่าที่จริงก็เป็นที่น่าเสียดายกับการเมืองระบบโควต้า ที่ทำให้ใช้งานไม่ถูกกับคน หรือ คนทำงานดี ทำงานได้ แต่ไม่ได้ทำงาน สะท้อนการเมืองแบบไทยๆ การเมืองระบบอุปถัมภ์ การเมืองต่างตอบแทน ที่อยู่กับสังคมไทยมานานหลายปีดีดัก 

*** การตั้งรัฐบาลให้เร็ว เพื่อทำงานให้เร็ว สะสางปัญหาที่รออยู่มากมาย ดังที่ทราบกันดี ปัญหาเศรษฐกิจเป็นวิกฤติที่ท้าทายที่รอรัฐบาลเข้าไปแก้ไข ต้องไม่ลืมว่าเราอยู่ในภาวะเศรษฐกิจที่ซึมกระทือ โตต่ำเตี้ยมานานแบบโงหัวไม่ขึ้น วันก่อนเพิ่งไปหัวเมืองปักษ์ใต้ เมืองท่องเที่ยว อย่างจ.กระบี่ แม้ไม่ใช่ไฮ ซีซั่น แต่อย่างน้อยก็ต้องมีคนเดินร้านตลาด แต่ถนนคนเดินแท้ๆ ช่วงค่ำๆ ที่คนควรจะเดินกันขวักไขว่ไหล่ชน กลับเงียบหาย มีแต่คนขาย ไม่มีคนเดินซื้อ ด้วยกำลังซื้ออ่อนเปลี้ยเต็มที แถมร้านรวงในตลาดประกาศเซ้งกันแป็นแถว 

นี่ขนาดจังหวัดท่องเที่ยวอันดามันที่เลื่องลือ แทบไม่ต้องไปพูดถึงเมืองรองทั้งหลาย จะอยู่กันอย่างไร ได้มีโอกาสพูดคุยชาวบ้านร้านตลาด ก็ถามไถ่ ทำไมต้องแจกเงินดิจิทัล แล้ว “รัฐบาลอุ๊งอิ๊ง” จะทำต่อไหม เอาเป็นแจกเงินให้ชาวบ้านโดยตรงดีกว่าไหม หรือ คนละครึ่งในค่าใช้จ่ายก็พอรับกันได้ว่าอย่างนั้น นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องสะสางให้ชัดเจน

*** ผลจากการเดินทางเที่ยวนี้ก็ได้เห็นหลายอย่าง แม้กระทั่งการตรวจบัตรโดยสารของเจ้าหน้าที่การท่าอากาศยาน AOT ที่ในกรุงเทพท่าอากาศยานดอนเมืองทำอย่าง แต่ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ทำอีกอย่าง ที่ดอนเมืองยอมรับคิวอาร์โค้ดเช็กอินแบบพรินซ์กระดาษจากอีเมล์ไปแสดงให้ดู ที่กระบี่กลับไม่ยอมรับ ต้องเปิดจากอีเมล์ในมือถือให้ดูอย่างเดียวเท่านั้น ก็แปลกใจอยู่ในที ทำไมปฏิบัติคนละมาตรฐาน อาจเป็นเพราะการบริหารยังไม่เป็นเนื้อเดียวกัน