“ธรรมนัส”หลุดโผ ครม.อุ๊งอิ๊ง ผวาขัดต่อมาตรฐานจริยธรรม

19 ส.ค. 2567 | 12:04 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ส.ค. 2567 | 12:08 น.

โผ ครม.อุ๊งอิ๊ง จะไม่มี “ธรรมนัส พรหมเผ่า” ร่วมด้วย หวั่นขัดต่อมาตรฐานจริยธรรม ขณะที่ “พล.ต.อ.พัชรวาท-อรรถกร” นั่งเก้าอี้เดิม “ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์”ชื่อโผล่นั่ง รมช.สาธารณสุข

วันนี้(19 ส.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าการตั้ง “ครม.อุ๊งอิ๊ง” ว่า ในสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐ มีรายงานว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รักษาการรมว.เกษตรและสหกรณ์ จะไม่ได้เข้าเป็นรัฐมนตรี ในรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เพราะมีความกังวลถึงคุณสมบัติที่อาจเข้าข่ายขัดต่อมาตรฐานทางจริยธรรม 

โดยมีรายงานว่า นายสันติ พร้อมพัฒน์ อาจจะได้ขึ้นเป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ แทน

ขณะเดียวกัน มีแนวโน้มที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะยังอยู่ในตำแหน่งเดิม เช่นเดียวกับ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรฯ ที่ยังจะอยู่ที่เดิม 

ส่วนตำแหน่งที่ว่างลง คือ รมช.สาธารณสุข คาดว่าจะส่งชื่อ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ แกนนำพรรคเข้าดำรงตำแหน่ง
สำหรับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้รับแต่งตั้งเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2566 เป็นระยะเวลา 352 วัน 

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ได้เข้าร่วมการประชุมกับน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุพร้อมร่วมงานกับรัฐบาล หลังจากที่เมื่อช่วงเช้านายภูมิธรรมได้ส่งสัญญาณไป ว่า ตอนนี้ข้อมูลสับสน ตนคิดว่าระหว่างพรรคการเมืองมีอะไรก็ให้พูดคุยกัน หากตอนนี้บอกว่าตนพูดเช่นนั้น เช่นนี้ก็จะมีปัญหา 

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า จากที่ตนให้สัมภาษณ์ไปเมื่อช่วงเช้า เนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้ทางคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้พูดกับตนว่า การตรวจสอบประวัติต้องใช้เวลามากกว่าเดิม จึงได้มีการพูดคุยกับหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรคว่าให้รีบส่งชื่อมา เพื่อตรวจสอบประวัติก่อน แล้วค่อยพูดคุยเรื่องรายละเอียด ขณะนี้ควรทำให้เร็วเพราะบ้านเมืองต้องการความต่อเนื่อง ฉะนั้น จึงอยากให้รีบส่งเข้ามา โดยให้เสร็จภายในวันที่ 20 ส.ค. เพื่อจะได้ส่งไปดำเนินการต่อ โดยให้สิทธิ์แต่ละพรรคดำเนินการเต็มที่ว่าจะเป็นอย่างไร 

นายภูมิธรรม กล่าวว่า จากที่นักข่าวถามถึงตระกูล “วงษ์สุวรรณ” ตนก็บอกว่า ตนตอบแทนไม่ได้ ต้องให้พรรคการเมืองนั้นตอบว่า ตกลงแล้วจะยังร่วมกันหรือไม่ เพราะตอนที่เลือก น.ส.แพทองธาร ก็ตกลงกันโดยพร้อมเพรียง เราจึงดำเนินการ แต่เห็นว่า พล.อ.ประวิตร ไม่ได้ไปโหวต ตนจึงบอกว่าต้องไปถามท่าน ให้ท่านตอบให้ชัดเจนว่าจะเอาอย่างไร ซึ่งทางพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้ติดปัญหาอะไร เอาให้ชัดว่าจะร่วมงานกันอย่างไร หากไม่ชัดแล้วพูดอะไรต่างๆ ก็จะทำให้เกิดความลำบาก การทำงานร่วมกันจะมีปัญหาได้

เมื่อถามว่าหาก พล.อ.ประวิตร ประกาศชัดว่าจะส่งชื่อ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรม.ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ก็โอเคใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนตอบไปแล้วว่าให้ท่านตอบให้ชัดเจน ว่าให้ส่งชื่อมาแล้วให้คุยกับพรรคด้วย ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้คุยกับท่าน  ย้ำว่าขณะนี้อยู่ในส่วนของขั้นตอน หากส่งชื่อมา เราก็ส่งชื่อไป เราไม่ว่า แล้วแต่พรรคจะตัดสินใจ

เมื่อถามย้ำว่า หากส่งชื่อมาจะไม่ปฏิเสธใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า “ส่งไปตามกระบวนการครับ ยังไม่ได้มีการพิจารณาเรื่องตัวบุคคล แต่ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการคัดคุณสมบัติที่ยาวนาน ฉะนั้น จึงอยากให้ส่งคนที่มีคุณสมบัติมาก่อน” 

เมื่อถามว่าได้เน้นย้ำกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ โดยเฉพาะการนำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมาเป็นบรรทัดฐาน ในเรื่องคุณสมบัติของบุคคลที่จะจะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะบางคนที่เคยอยู่ในรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ก็อาจจะเข้าข่ายขาดจริยธรรมด้วย

นายภูมิธรรม กล่าวว่า “เราไม่ได้คิดว่าเป็นมาตรฐานใหม่หรือเก่าอะไร แต่ขณะนี้มีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้น สิ่งที่สำคัญคือ ตอนนี้เรากำลังดำเนินการตามกระบวนการรวบรวมคณะรัฐมนตรี ซึ่งเมื่อได้รายชื่อที่ทุกส่วนเห็นว่า ใช้ได้แล้ว เราก็จะมาพิจารณาถึงกระทรวงต่างๆ โดยกระบวนการหลังจากนี้ เป็นเรื่องที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลต้องคุยกัน”

เมื่อถามถึงกรณีที่น.ส.แพทองธารระบุว่า จะไม่ให้คนที่มีปัญหาเข้าร่วมครม. นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นไปตามกระบวนการ ขณะนี้เป็นการฟอร์ม ครม.ร่วมกัน และเป็นความเห็นร่วมกันของครม. ของนายกรัฐมนตรี และพรรคร่วมรัฐบาล 

เมื่อถามว่าจะมีเสียงเพิ่มเติมจากพรรคร่วมรัฐบาลที่มีอยู่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า พรรคที่จับมือร่วมกันโหวตนายกรัฐมนตรี เป็นพรรคที่ร่วมมือกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเมื่อโหวตแล้วจะต้องมาร่วมจัดตั้งครม. ขณะนี้ 6 พรรคร่วมรัฐบาลได้ร่วมกันโหวตจนได้นายกรัฐมนตรีมา ถือว่า 6 พรรคร่วมที่ตกลงกัน ก็จะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล ส่วนพรรคอื่นที่เติมมา เป็นคนละส่วน 

เมื่อถามว่า ถือว่าเป็นการปิดประตูกับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เลยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ได้คิดอะไรถึงตรงนั้น คิดถึงแค่ตรงนี้ เพราะที่ตรงนี้ยังแก้ปัญหาอยู่ 

เมื่อถามถึง กรณีที่ 6 เสียงของพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) โหวตให้ น.ส.แพทองธาร มีการต่อรองขออะไรหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนยังไม่เคยคุยอะไรกับพรรค ทสท.เลย ซึ่งที่เขาโหวตให้ก็ถือว่าเป็นดุลยพินิจ และเอกสิทธิ์ของสส.