พปชร.เปิดศึกแย่งกมธ. รุมทึ้ง“งบ64” ลงพื้นที่
+++ ระหว่างวันที่ 1-3 กรกฎาคม 2563 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรจะมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ในวาระ 1 ภายใต้วงเงิน 3.3 ล้านล้านบาท โดยมีการจัดสรรงบประมาณตามยุทธศาสตร์ 6 ด้าน ประกอบด้วย 1.ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม วงเงิน 795,806 ล้านบาท 2.ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ วงเงิน 577,752 ล้านบาท 3. ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐ วงเงิน 556,529 ล้านบาท 4.ด้านความมั่นคง วงเงิน 416,004 ล้านบาท 5.ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน วงเงิน 402,311 ล้านบาท และ 6.ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม วงเงิน 118,315 ล้านบาท
+++ การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ยังให้ความสำคัญต่อความเชื่อมโยงกับนโยบายสำคัญของรัฐบาล มีเป้าหมายเพื่อบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างศักยภาพทางการคลังขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมของการถ่ายโอนภารกิจการจัดบริการสาธารณะระดับท้องถิ่น เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนในระดับพื้นที่ เพื่อให้การใช้จ่ายเงินงบประมาณเป็นไปอย่างคุ้มค่า มีประสิทธิภาพ และประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด
+++ ด้านการเตรียมอภิปรายงบประมาณ 2564 ของฝ่ายค้าน สุทิน คลังแสง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) บอกว่า มีส.ส.ฝ่ายค้านแสดงเจตจำนงขออภิปรายกว่า 120 คน และประเด็นที่ ส.ส.หลายคนติดใจคือ การจัดสรรงบประมาณให้ศาลรัฐธรรมนูญ ที่อ้างว่ายังไม่มีกฎหมายรองรับ จึงเชื่อว่าการอภิปรายครั้งนี้จะมีสมาชิกหยิบยก ประเด็นนี้ขึ้นมาอภิปราย พร้อมชี้ว่า การจัดทำร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน แม้จะให้ข้าราชการจัดทำงบประมาณมา แต่ไม่ได้สนองต่อประชาชน จึงเป็นการจัดงบประมาณที่ข้าราชการอยากทำ แต่ประชาชนไม่ได้อยากได้
+++ นอกจากนี้ยังติดใจเรื่องการจัดทำงบประมาณที่เพิ่มขึ้นจากเดิม โดยเฉพาะการใช้งบประมาณจาก 3 ก้อนที่ใช้ดำเนินการซ้ำซ้อนไม่สัมพันธ์กัน คือ งบประมาณตาม พ.ร.บ.โอนงบฯ 2563 งบตาม พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ และร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2564 ที่ยังมีความไม่กระจ่างชัด พร้อมทั้งเห็นว่า รัฐบาลไม่ปรับเปลี่ยนการจัดสรรงบประมาณ เพราะยังมีงบประมาณในส่วนของงบบูรณาการให้จังหวัดที่ ส.ส.ยังคงติดใจ เพราะงบประมาณ 2564 เป็นงบที่ทำไว้ตั้งแต่ปี 2562 แต่มีปรับเปลี่ยนตอนมีโควิด-19 เข้ามา และยัง “ติดใจงบบูรณาการ งบจังหวัด” ที่เดิมจัดสรรให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการ แต่ก็จัดงบมาไว้ที่ส่วนกลางถือเป็นความซ้ำซ้อนระหว่างงบกลางกับงบจังหวัด เช่น ทำถนนหลวง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม จากการหารือกับ วิปรัฐบาล แล้ว ได้กำหนดตั้งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 2564 จำนวน 72 คน มีกรอบเวลาศึกษา 80-90 วัน ซึ่งจะเข้าสู่การพิจารณาในวาระ 2 และวาระ 3 ประมาณเดือนกันยายนนี้
+++ การพิจารณาพ.ร.บ.งบประมาณ 2564 น่าสนใจว่า จะทำให้ “การเมืองเดือดไม่เดือดอีกรอบหรือไม่” เมื่อเข้าสู่ในชั้นการพิจารณาของ “กรรมาธิการวิสามัญ(กมธ.)” เพราะจะมีการแย่งกัน “ดึง”งบประมาณลงพื้นที่ของ ส.ส. ทำให้ส.ส.ต้องแย่งกันเข้ามาเป็นกรรมาธิการให้ได้ โดยเฉพาะในพรรค “พลังประชารัฐ” ว่ากันว่าเกิดการแย่งชิงกันเป็นกรรมาธิการให้วุ่นวาย มีการอ้างอิง “บิ๊กบราเธอร์” คนนั้นคนนี้ไม่ใช่กลุ่มของตัวเอง ก็หมดสิทธิ์นั่งกรรมาธิการ ...ขอเตือนไว้ตรงนี้เที่ยวไปแปลงงบลงพื้นที่ตัวเอง จะมีความผิดตามรัฐธรรมนูญ ดีไม่ดีส่งผลถึงการ “คว้ำรัฐบาลลุงตู่” เอาได้เชียวนะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือนกันเลย...
+++ คงจะขัดอกขัดใจของใครต่อใครหลายคน ทั้งๆ ที่ประเทศไทย “ปลอดโควิด-19” มาร่วมเดือน แต่คณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ที่มี พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) เป็นประธาน กลับมีมติเสนอต่ออายุ “พรก.ฉุกเฉิน” ออกไปอีก 1 เดือน จนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ และจะเสนอต่อที่ประชุม “ศบค.ใหญ่” ในวันที่ 29 มิถุนายนต่อไป
+++ พล.อ.สมศักดิ์ ให้เหตุผลที่ต้องเสนออายุ “พรก.ฉุกเฉิน” ว่า เพราะกิจกรรมที่ได้รับการผ่อนคลายในระยะที่ 5 มีความล่อแหลมต่อการระบาดของโควิด-19 มากที่สุด เราให้ความสำคัญในการป้องกันจึงจำเป็นต้องใช้พรก.ฉุกเฉินต่อไป หากไม่มี พรก.ฉุกเฉิน ต้องใช้กฎหมายถึง 5 ฉบับมาแทนที่ แต่ก็ไม่มั่นใจว่าจะมีประสิทธิภาพเท่า ซึ่งกลยุทธ์ในการป้องกันโควิดของเราตั้งแต่แรก คือควบคุมไม่ให้มีการนำโรคจากต่างประเทศเข้ามา ซึ่งมีประสิทธิภาพ “พรก.ฉุกเฉิน” เป็นกลไกสำคัญ เมื่อจะผ่อนคลายกิจกรรมที่ล่อแหลม จึงต้องคงเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพนี้ต่อไป และเรื่องนี้ยังเป็นเพียงการพิจารณาของชุดเฉพาะกิจ ยังต้องเข้าที่ประชุมศบค.และครม.ต่อไป และยืนยันว่า “ไม่มีนัยทางการเมือง” ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันและอนาคต วันที่ 24 มิถุยายน ที่มีการทำกิจกรรมทางการเมือง ก็ไม่มีการใช้ “พรก.ฉุกเฉิน” เพราะมีพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะอยู่ เราใช้พรก.ฉุกเฉิน ด้วยเหตุผลทางสาธารณสุขเป็นหลัก
+++ ไปปิดท้ายกันที่ เครือสหพัฒน์ ประกาศจัดงาน "สหกรุ๊ปแฟร์ออนไลน์ ปี 63” มหกรรมช้อปหยุดโลก เปิดให้ช้อปออนไลน์เต็มรูปแบบครั้งแรก ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน 3 แพลตฟอร์ม Lazada, Shopee และ JD Central โดยโอซีซีกรุ๊ปได้ขนสินค้าดี มีคุณภาพ ร่วมจัดโปรโมชั่นพิเศษมากมาย อาทิ PAUL & JOE, KMA, Guy Laroche (Lingerie, Swimwear), Gunze, PAON Seven-Eight, Diva Plus เป็นต้น ระหว่างวันที่ 2-5 กรกฎาคม 2563 ที่ www.sahagroupfair.com