“ทรีนีตี้” แนะลงทุนหุ้น 5 กลุ่ม พี/อีต่ำกว่า 15 เท่า

05 เม.ย. 2564 | 07:18 น.

"ทรีนีตี้" ชี้ธีมลงทุนหุ้นไตรมาส 2 แนะหุ้น 5 กลุ่ม พี/อีต่ำกว่า 15 เท่า ราคาต่อมูลค่าบัญชี กว่า 2 เท่า มองหุ้นเดือน เม.ย.อยู่ในภาวะอึดอัด ขึ้นยาก-ลงยาก หุ้นมูลค่ายังเป็นพระเอกจากทิศทาง Bond yield ขาขึ้น

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด  เปิดเผยถึงทิศทางการลงทุนในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2564 ว่า ทาง ทรีนีตี้ ได้คัดเลือกกลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใจลงทุน โดยเป็นกลุ่มที่มีพี/อี ต่ำกว่า 15 เท่า และมีราคาต่อมูลค่าบัญชีต่ำกว่า 2 เท่า ซึ่งมีทั้งสิ้น 5 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มธนาคารพาณิชย์, กลุ่มชิ้นส่วนรถยนต์ , กลุ่มเกษตร , กลุ่มวัสดุก่อสร้าง และกลุ่มประกัน ซึ่งการวิเคราะห์ได้ย้อนกลับไปในอดีตที่ยังพบด้วยว่า หุ้นทั้ง 5 กลุ่มนี้นั้นยังมีพี/อีต่ำกว่า หรือใกล้เคียงค่าเฉลี่ยอีกด้วย จึงมองว่า หุ้นทั้ง 5 กลุ่มนี้สามารถเป็นหุ้นที่เหมาะกับการลงทุนในเดือน เม.ย.และต่อเนื่องได้ตลอดไตรมาส 2

 “รายชื่อหุ้นที่น่าลงทุนใน 5 กลุ่มที่พิจารณาจากการเติบโตของกำไรสุทธิงวดไตรมาส 1 ปี 64กับงวดเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า ในส่วนของกลุ่มแบงก์แนะนำธนาคารเล็กคือ TISCO  ส่วนกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์แนะนำ AH ซึ่งแนวโน้มกำไรปีนี้เติบโตสูง กลุ่มเกษตร แนะนำ STA และ STGT ซึ่งสินค้ายางธรรมชาติและถุงมือยางของเรานั้นยังคงส่งออกได้ดี ส่วนกลุ่มวัสดุก่อสร้างแนะนำ SCC ที่ได้ประโยชน์จากสเปรดปิโตรเคมีในระดับสูง ในขณะที่กลุ่มประกันภัยถือว่าเป็นกลุ่มที่จะได้อานิสงส์ จากบอนด์ยีลด์อยู่ในภาวะที่ยังปรับตัวสูงขึ้น” นายณัฐชาต กล่าว

นอกจากนี้ยังมีหุ้นที่ทาง ทรีนีตี้ คาดการณ์ว่าจะถูกนำเข้าคำนวณดัชนีสำคัญในช่วงถัดไป อย่างเช่นดัชนี MSCI ที่จะมีการทบทวนในเดือน พ.ค. ซึ่งในส่วนนี้คาดว่า SCGP จะเป็นตัวเก็งหลัก ในขณะที่ดัชนี SET50 ประจำงวดครึ่งปีหลังนั้น คาดว่าหุ้นที่จะถูกนำเข้าคำนวณคือ STGT, IRPC และ STA ซึ่งหากนักลงทุนต้องการเก็งกำไรในหุ้นที่คาดว่าจะถูกนำเข้าไปคำนวณในดัชนีเหล่านี้ จังหวะที่เหมาะสมก็คือช่วง 1-2 เดือนก่อนหน้าที่จะมีการประกาศ ซึ่งก็ตรงกับช่วงเวลานี้พอดี

นายณัฐชาต กล่าวถึงการลงทุนในช่วงเดือน เม.ย.ว่า ตลาดหุ้นไทยจะอยู่ในภาวะที่อึดอัด การปรับตัวขึ้นอย่างสำคัญจะมีความยากจาก Valuation ที่อยู่ในระดับสูง ส่วนการปรับฐานรุนแรงก็ยังเกิดได้ยากจากสภาพคล่องทั้งภายในและภายนอกที่ยังคงเอ่อล้น ด้วยเหตุนี้กลยุทธ์เดือน เม.ย.จึงแนะนำให้ Selective หุ้น ดังนี้คือ

1. กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Reopening และมี Valuation ที่ถูก เช่น หุ้นน้ำมัน คือ OR, PTG  กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BCH, IMH

2. กลุ่มส่งออกที่ได้ประโยชน์เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวและเงินบาทอ่อนค่า เช่นยานยนต์  AH และกลุ่มอาหาร  CPF,TU

3. กลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะรายได้กำไรออกมาดี เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้ารวมถึงอัตราปันผลเกิน 3% ขึ้นไป  ADVANC, EGCO, PTT ,QH, SCC

4. กลุ่มลุ้นเข้า MSCI ได้แก่ SCGP

 5. กลุ่มลุ้นเข้า SET50 ได้แก่ STGT, IRPC, STA       

ข่าวที่เกี่ยวข้อง