กระทรวงพาณิชย์สหรัฐแถลงว่า ทางกระทรวงได้เริ่มทำการสอบสวนกรณีการนำเข้ายางรถยนต์จากประเทศไทย เวียดนาม เกาหลีใต้ และไต้หวัน เพื่อพิจารณาว่ามีการจำหน่ายยางดังกล่าวในสหรัฐในราคาที่ต่ำกว่าระดับที่เหมาะสมหรือไม่
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ยังสอบสวนว่าผู้ผลิตยางในเวียดนามได้รับการอุดหนุนที่ไม่เป็นธรรมสำหรับการผลิตยางรถยนต์นั่งส่วนบุคคล และรถบรรทุกขนาดเบาหรือไม่
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เริ่มการสอบสวนดังกล่าว หลังจากที่ได้รับการร้องเรียนจากสหภาพ USW ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ผลิตยางรถยนต์ของสหรัฐ
ทั้งนี้ สหรัฐนำเข้ายางรถยนต์ราว 4 พันล้านดอลลาร์จากทั้ง 4 ประเทศ โดยนำเข้าเกือบ 2 พันล้านดอลลาร์จากไทยในปีที่แล้ว และ 1.2 พันล้านดอลลาร์จากเกาหลีใต้
USW ระบุว่า การนำเข้ายางรถยนต์จากทั้ง 4 ประเทศได้พุ่งขึ้นเกือบ 20% นับตั้งแต่ปี 2560 สู่ระดับ 85.3 ล้านเส้น
สำหรับยางรถยนต์ที่สหรัฐฯนำเข้าจากไทยในปี 2562 สัดส่วนเกือบ 50% ผลิตโดยบริษัทลงทุนจากจีน เช่น LLIT, Zhongce, Maxxis, Sentury Tire เป็นต้น จากบริษัทที่เป็นห่วงโซ่อุปทานการผลิตสินค้าระหว่างบริษัทแม่ในสหรัฐฯและบริษัทลูกในไทย เช่น Bridgestone, Goodyear, Michelin, Sumitomo, Yokohama สัดส่วน 30% และอีก 20% เป็นบริษัทสัญชาติไทย อาทิ Dee Stone, Vee Rubber และ Otani
ทั้งนี้มีการประเมินว่าการเปิดไต่สวนและใช้มาตรการเอดีจะกระทบต่อการส่งออกยางรถยนต์ของไทยไปสหรัฐที่อาจลดลง จากในปีที่ผ่านมาไทยส่งออกยางรถยนต์ไปสหรัฐฯมูลค่ากว่า 8.24 หมื่นล้านบาท (สัดส่วน 46% ของการส่งออกยางรถยนต์ของไทยไปทั่วโลกในปี 2562 ที่มีมูลค่า 1.78 แสนล้านบาท)
โอกาสที่ไทยจะไม่ถูกใช้มาตรการเอดีคงยาก ผลจากมีผู้ผลิตยางรถยนต์จากจีนหลายค่ายได้ย้าย/ขยายฐานการผลิตมายังไทย หลังในปี 2558 สหรัฐฯได้ขึ้นภาษียางรถยนต์จากจีน (สูงถึง 87.99%) และได้มาใช้ไทยเป็นฐานผลิตส่งออกไปสหรัฐฯ ทำให้ตัวเลขการส่งออกจากไทยไปสหรัฐฯเพิ่มขึ้นสูงมาก