พ่อค้าแม่สอด  จับตา ‘เมียนมา’  หวั่น‘บอยคอต’กระทบค้าชายแดน 

19 ก.พ. 2564 | 05:45 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ก.พ. 2564 | 05:49 น.

ชายแดนกับเมียนมาด้านแม่สอดยังเดินหน้าปกติ แต่พ่อค้าจับตาวิกฤตการเมืองเมียนมาไม่กระพริบ หวั่นบานปลายจนโลกบอยคอตอาจกระทบการค้าชายแดน ด้านทหารกะเหรี่ยงประกาศคุ้มครองมวลชนกลุ่มชาติพันธุ์ ที่ออกมาร่วมประท้วงรัฐบาลทหารเมียนมา

ชายแดนกับเมียนมาด้านแม่สอดยังเดินหน้าปกติ แต่พ่อค้าจับตาวิกฤตการเมืองเมียนมาไม่กระพริบ  หวั่นบานปลายจนโลกบอยคอตอาจกระทบการค้าชายแดน ด้านทหารกะเหรี่ยงประกาศคุ้มครองมวลชนกลุ่มชาติพันธุ์ ที่ออกมาร่วมประท้วงรัฐบาลทหารเมียนมา 

 

เสถียรภาพทางการเมืองในเมียนมายังน่ากังวล เมื่อกองทัพออกมาล้มการจัดตั้งรัฐบาลพลเรือนหลังการเลือกตั้ง และเข้าควบคุมประเทศ ท่ามกลางกระแสต่อต้านของชาวเมียนมาอย่างกว้างขวาง ขณะที่ทางการเมียนมาก็ยกระดับการควบคุม ทั้งใช้กำลังเจ้าหน้าที่สลายการชุมนุม ไล่กวาดจับแกนนำต่อต้าน ประกาศเคอร์ฟิว ตลอดจนตัดสัญญาณอินเตอร์เนตเป็นช่วง ๆ โดยทั่วโลกต่างจับตาใกล้ชิดด้วยความหวั่นใจว่า สถานการณ์จะลุกลามเป็นความรุนแรงซ้ำรอยอดีตหรือไม่ 

พ่อค้าแม่สอด   จับตา ‘เมียนมา’   หวั่น‘บอยคอต’กระทบค้าชายแดน 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การชุมนุมต่อต้านรัฐบาลทหารคราวนี้ยังขยายวงถึงหัวเมืองชายแดนติดกับประเทศไทย ซึ่งเป็นพื้นที่ในเขตอิทธิพลของชนกลุ่มน้อย โดยมวลชนกลุ่มชาติพันธุ์ออกมาร่วมกับชาวเมียนมา จัดการชุมนุมทั้งที่เมืองเมียวดี ฝั่งตรงข้ามอ.แม่สอด จ.ตาก และที่ท่าขี้เหล็ก ฝั่งตรงข้ามอ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง บางครั้งมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาสั่งยุติการชุมนุมชายแดนไทย-เมียนมา  กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ KNLA  กองทัพพันธมิตรสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงอิสระ (Karen National Union-KNU) ได้ออกมาประกาศพร้อมปกป้องพลเมือง ประชาชนชาวกะเหรี่ยง ที่กำลังลุกฮือออกมาต่อต้านการรัฐประหารโดยกองทัพเมียนมาแล้ว 

 

การประท้วงในเมียนมา

ที่เมืองกอกาเรก (Kawkareik) ซึ่งตั้งอยู่ถัดจากเมียวดีเข้าไปในเมียนมา เป็นเขตกองพลที่ 6 ของกองทัพ KNU มีมวลชนชาวกะหรี่ยงจำนวนมากลุกขึ้นมาประท้วงกองทัพเมียนมา โดยมีทหารกะเหรี่ยง  KNLA-Karen National Liberation Army  คอยให้ความคุ้มครองป้องกันดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน ที่ออกมาประท้วงต่อต้านรัฐประหารในสหภาพเมียนมา

นายบรรพต ก่อเกียรติเจริญ  ที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดตาก และผู้ประกอบการค้าใหญ่รายหนึ่งด้านชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สอด จ.ตาก กล่าวถึงการต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาที่อาจกระทบการค้าชายแดน ว่า ช่วงนี้การค้าชายแดนแม่สอด-เมียวดี  ยังคงเดินหน้าไปได้อย่างปกติ และค่าเงินจ๊าตเมียนมา  100 จ๊าต แลกเงินบาทไทยได้  2.28 บาท ส่วนใหญ่ยังค้าเงินสด พ่อค้าเมียนมาแลกเป็นบาทในการซื้อสินค้า   

บรรพต ก่อเกียรติเจริญ

พ่อค้าแม่สอด   จับตา ‘เมียนมา’   หวั่น‘บอยคอต’กระทบค้าชายแดน 

สำหรับสินค้าอุปโภค บริโภคก็มีการกักตุนบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็จะสั่งรายวันแบบวันต่อวัน โดยส่งข้ามทางสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 2 โดนในตอนนี้ทางการเมียนมายังไม่มีคำสั่งห้ามการนำเข้าสินค้าชนิดหนึ่งชนิดใด ยังสามารถสั่งซื้อขายกันได้ปกติ ไม่มีสินค้าต้องห้ามที่เกี่ยวกับความมั่นคงเหมือนที่เคยมีในอดีต

 

 

“แม้โดยรวมยังปกติ แต่เราก็ต้องติดตามสถานการณ์ในเมียนมาทุกวันอย่างใกล้ชิดแบบวันต่อวัน โดยส่วนตัวในฐานะพ่อค้าก็อยากจะให้เมียนมามีประชาธิปไตย เพราะห่วงว่าหากเมียนมาจะใช้ระบบทหารมาปกครองประเทศ ก็กลัวว่าทั่วโลกหรือนานาชาติจะบอยคอตรัฐบาลเมียนมา ซึ่งจะส่งผลทำให้การค้าไม่ปกติทันที” 

นายบรรพตกล่าวทิ้งท้ายว่า อยากให้สถานการณ์ในเมียนมาคลี่คลายโดยเร็ววัน เพื่อให้กลับมาเป็นปกติสุข มีการซื้อขายแลกเเปลี่ยนสินค้ากันได้ต่อเนื่อง โดยทุกวันนี้มียอดการซื้อขายสินค้าอุปโภคบริโภคข้ามแดนกันของพ่อค้าท้องถิ่นในพื้นที่ ตกวันละประมาณ 4,000,000- 5,000,000 บาท  

สิบล้อแม่สอด

พ่อค้าแม่สอด   จับตา ‘เมียนมา’   หวั่น‘บอยคอต’กระทบค้าชายแดน 

ทั้งนี้ ก่อนจะมีสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะมีชาวเมียนมาจากจังหวัดเมียวดี ข้ามด่านแม่สอด จังหวัดตาก เข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้าและเข้ามาท่องเที่ยว เฉลี่ยวันละไม่น้อยกว่า 3,000-4,000 คน จนมีการระบาดเชื้อโควิด-19 ทั้งฝั่งไทยและเมียนมาต่างสั่งห้ามคนข้ามแดนเพื่อควบคุมโรค แต่ยังเปิดให้ขนส่งสินค้าข้ามแดนระหว่างกันโดยมีมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด กระทั่งกองทัพเมียนมาล้มการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งและเข้าควบคุมประเทศจนเกิดการต่อต้านอย่างกว้างขวางเวลานี้ 

 

อัศวิน พินิจวงษ์/รายงาน

หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,655 วันที่ 21 - 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564