สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ สถานการณ์โรคโควิด ในประเทศญี่ปุ่น ประจำวันที่ 21 สิงหาคม 2563 เวลา 18.30 น. มีรายงานผู้ติดเชื้อทั่วประเทศญี่ปุ่นจำนวน 1,014 คน มีรายละเอียด ดังนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
WHO ชี้วัคซีนเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถยุติโควิด-19 ระบาด
อ่วม! ทั่วโลกติดโควิด-19 ทะลุ 23 ล้านราย เสียชีวิตกว่า 8 แสนราย
7 เรื่องอัพเดตสถานการณ์โควิด-19 ก่อนเริ่มวันใหม่
ในวันที่ 20 สิงหาคม ได้รายงาน สถานการณ์โรคโควิด ปรากฏว่ามีผู้ติดเชื้อใหม่ทั่วประเทศ ญี่ปุ่น จำนวน 1,185 คน รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสมในญี่ปุ่น 60,033 คน / ผู้ป่วยอาการรุนแรง 237 คน / ผู้เสียชีวิต 1,160 คน เพิ่มขึ้น 11 คนจากวันก่อนหน้า ทั้งนี้ จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากที่สุด ได้แก่ (1) กรุงโตเกียว 339 คน (2) จังหวัดโอซากา 132 คน (3) จังหวัดคานากาวะ 104 คน (4) จังหวัดไอจิ 82 คน (5) จังหวัดไซตามะ 73 คน รายละเอียดตามเอกสารแนบ
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม หลายจังหวัดมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มมากขึ้น ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อไม่ทราบเส้นทางการติดเชื้อ และมีการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนในสถานดูแลผู้สูงอายุหลายแห่ง ดังนี้
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม มีการประชุมการเฝ้าระวังสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัส COVID-19 ในกรุงโตเกียวประจำสัปดาห์ โดยผู้เชี่ยวชาญได้สรุปว่า สถานการณ์การติดเชื้อและการให้บริการด้านการแพทย์ ไม่เปลี่ยนแปลงมากจากสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี พบผู้ติดเชื้ออาการรุนแรงมากขึ้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องสำรองจำนวนเตียงมากเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังมีสาระสำคัญอื่น ๆ ดังนี้
นาง KOIKE Yuriko ผู้ว่าราชการกรุงโตเกียว แถลงต่อสื่อมวลชนว่า กลุ่มผู้ติดเชื้อจากสมาชิกภายในบ้านยังเป็นกลุ่มที่มีจำนวนสูงที่สุด (ร้อยละ 41) และยังพบกลุ่มที่ติดจากที่ทำงานและงานเลี้ยงสังสรรค์จำนวนมากเช่นกัน จึงขอความร่วมมือประชาชนเพิ่มความระมัดระวังไม่นำเชื้อโรคไปติดผู้สูงอายุภายในบ้าน เช่น หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของร่วมกัน เป็นต้น ทั้งนี้ เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามเกี่ยวกับแนวโน้มของผู้ติดเชื้อที่ลดลง นาง KOIKE ตอบว่า จำนวนที่ลดลงอาจเป็นผลมาจากจำนวนผู้ที่รับการตรวจ PCR ลดลงในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา โดยภายในสัปดาห์หน้า น่าจะทราบได้ว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลโอบ้ง (เทศกาลไหว้บรรพบุรุษ) มากหรือไม่
ขณะที่ นาย OMI Shigeru ประธานคณะอนุกรรมการนโยบาย COVID-19 ของรัฐบาล ได้กล่าวในการสัมมนาด้านวิชาการของสมาคมโรคติดต่อแห่งญี่ปุ่นว่า อาจอนุมานได้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในการแพร่ระบาดในครั้งนี้ได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว โดยมีความจำเป็นที่ต้องเฝ้าระวังพัฒนาการหลังจากนี้ต่อไป ทั้งนี้ ถึงแม้ว่า ในปัจจุบันจะสามารถลดความเสี่ยงในการติดเชื้อในการดำเนินกิจกรรมทางสังคมและเศรษฐกิจได้ค่อนข้างดีในระดับหนึ่งแล้วเมื่อเทียบกับการแพร่ระบาดระลอกแรก แต่รัฐบาลก็ยังต้องหามาตรการป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงในสังคมให้ได้เหลือศูนย์
ตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 เป็นต้นไป รัฐบาลญี่ปุ่นจะอนุญาตให้ชาวต่างชาติที่มีสถานะพำนักระยะยาวทุกประเภทเดินทางกลับเข้าญี่ปุ่นได้ ภายใต้เงื่อนไขต้องตรวจ PCR เมื่อเดินทางถึงญี่ปุ่นและต้องกักตัวอีก 14 วัน ทั้งนี้ รวมถึงชาวญี่ปุ่นที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวด้วยเช่นกัน โดยรัฐบาลเตรียมเพิ่มความสามารถในการตรวจ PCR ภายในท่าอากาศยาน 3 แห่ง เพื่อให้สามารถตรวจ PCR ได้ประมาณ 1 หมื่นคน/วัน
ข้อมูลจากเว็บไซต์ NHK
https://www3.nhk.or.jp/news/special/coronavirus/
ติดตามข้อมูลย้อนหลังได้ที่ http://site.thaiembassy.jp/th/info/embassy-message/list.php
เริ่มแล้วประมูลทรัพย์สินธอส.นำบ้านมือสองออกมาขาย