นายการ์ลิโต กัลเวซ ประธานคณะทำงานควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ของฟิลิปปินส์ เปิดเผยวานนี้ (26 พ.ย.) ว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์ จะลงนามใน ข้อตกลงสั่งซื้อวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จาก บริษัทแอสตร้าเซนเนก้า จำนวน 2 ล้านโดส ในวันศุกร์ที่ 27 พ.ย.นี้
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากแอสตร้าเซนเนก้าเปิดเผยว่า วัคซีนที่บริษัทพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด มีประสิทธิภาพ 90% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 โดยแอสตร้าเซนเนก้าประกาศว่าจะยึดมั่นในคำสัญญาที่จะไม่แสวงหากำไร รวมทั้งความมุ่งมั่นที่จะให้การเข้าถึงวัคซีนเป็นไปในวงกว้างและเท่าเทียมกัน
นายกัลเวซยังกล่าวด้วยว่า ฟิลิปปินส์มีแผนจะซื้อวัคซีนจำนวนมากถึง 50 ล้านโดสจากบริษัทซิโนแวก ไบโอเทค ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ชั้นนำของจีน นอกจากนี้ ฟิลิปปินส์อาจจะทำข้อตกลงซื้อวัคซีนจากผู้ผลิตรายอื่น ๆ อีก หากบริษัทผู้ผลิตวัคซีนเหล่านั้นไม่แสวงหากำไร และปรับลดราคาลงมา
ทั้งนี้ รัฐบาลฟิลิปปินส์ตั้งเป้าที่จะฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้กับประชาชนจำนวน 30 ล้านคนต่อปี เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนประมาณ 70% ของจำนวนประชากรภายในประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รู้จักวัคซีน AZD1222 ของแอสตร้าเซนเนก้า ที่ไทยเลือกใช้
นายกฯเตรียมเป็นประธานพิธีลงนามจอง-ซื้อวัคซีนโควิด 27 พ.ย.นี้
ในช่วงต้นเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา นายกัลเวซให้สัมภาษณ์สถานีข่าวเอบีเอส-ซีบีเอ็นว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์คาดว่าจะเริ่มฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนได้ภายในเดือนพ.ค. ปีหน้า (2564) "กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฟิลิปปินส์ (DOST) คาดการณ์ว่า หากทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ฟิลิปปินส์อาจสามารถฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้อย่างเร็วที่สุดภายในเดือนพ.ค.ปีหน้า" อย่างไรก็ตาม นายกัลเวซกล่าวเสริมว่า หากมีปัญหาด้านอุปสงค์และอุปทาน การฉีดวัคซีนป้องกันโควิดอาจล่าช้าออกไปเป็นช่วงปลายปี 2564
สำหรับประเทศไทย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะเป็นประธานในพิธีลงนามในสัญญาการจัดหาวัคซีนโควิด-19 โดยการจองล่วงหน้าและสัญญาการจัดซื้อวัคซีน กับบริษัท แอสตร้าเซเนก้า ผู้ผลิตชีวภัณฑ์ชั้นนำสัญชาติอังกฤษ-สวีเดน ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ในวันศุกร์นี้ (27 พ.ย.) เช่นกัน เป็นผลจากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ที่เห็นชอบโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำหรับประชาชนไทยโดยการจองล่วงหน้าและการจัดซื้อวัคซีนในวงเงิน 6,049,723,117 บาท โดยให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติเป็นผู้จัดทำสัญญา
การลงนามในสัญญาการจัดหาวัคซีนโดยการจองล่วงหน้าและสัญญาการจัดซื้อวัคซีนดังกล่าว จะทำใหัคนไทยมีโอกาสเข้าถึงวัคซีนมากกว่าประเทศอื่น โดยคาดว่าจะได้รับวัคซีนกลางปี 2564 เพราะความร่วมมือดังกล่าว ยังหมายรวมถึงการผลิตวัคซีนในประเทศไทย ที่จะใช้โรงงานของบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด เป็นแหล่งการผลิต โดยไทยจะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี จึงถือเป็นโอกาสในการสร้างขีดความสามารถของประเทศ ลดความสูญเสีย และสร้างโอกาสทางด้านเศรษฐกิจอย่างมหาศาล