สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต. / ทูตพาณิชย์) ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากสื่อของเวียดนามว่า ศูนย์ข้อมูลและพยากรณ์เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(NCIF) ระบุว่า ในกรณีที่ดีที่สุดที่เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและการแพร่ระบาดของโควิด -19 สามารถควบคุมได้เวียดนามอาจจะเติบโตร้อยละ 6.72 ในปี 2564 การผลิตในประเทศสามารถกลับ สู่ระดับก่อนการแพร่ระบาดได้การลงทุนภาครัฐเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 ต่อปี และเวียดนามจะสามารถใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรี โดยเฉพาะข้อตกลงการค้าเสรีสหภาพยุโรป - เวียดนาม (EVFTA) คาดว่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทข้ามชาติได้เปลี่ยนห่วงโซ่อุปทานไปยังประเทศที่มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่า เช่น เวียดนาม
อย่างไรก็ตาม นาย Dang Duc Anh รองผู้อำนวยการ NCIF ยังเตือนถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เศรษฐกิจโลกไม่สามารถคาดเดาได้เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการปกป้องที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการเปลี่ยนไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล จำเป็นต้องมีการปฏิรูปและการปรับเปลี่ยน
ผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวว่า หนึ่งในเกณฑ์ที่จำเป็นในการกระตุ้นการเติบโตคือ การเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบบเศรษฐกิจแบบตลาด โดยมุ่งเน้นที่การพัฒนาภาคเอกชน
การเติบโตของเวียดนามลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบทศวรรษอยู่ที่ร้อยละ 2.9 ในปี2563 แต่เวียดนามเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศ ที่มีการเติบโตในเชิงบวก เมื่อการแพร่ระบาดของโควิด -19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทำให้หดตัวลง
สคต. ณ กรุงฮานอยให้ความเห็นว่า จากการที่เวียดนามให้ความสำคัญการป้องกันโรคและการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างมีประสิทธิผล รักษาเสถียรภาพ ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ปรับปรุงผลผลิตและความสามารถในการแข่งขันจะทำให้เวียดนามก้าวไปสู่หนึ่งในประเทศที่มีเสถียรภาพทางการเติบโตและยังคงเป็นอีกหนึ่งประเทศเป้าหมายของนักลงทุนไทย เพื่อใช้ประโยชน์จากข้อตกลงทางการค้าต่าง ๆ ของเวียดนาม รวมถึงการลงทุนในกลุ่มสินค้าที่เป็นห่วงโซ่อุปทาน(supply chain)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"โควิด-19" เวียดนามพบผู้ติดเชื้อ 2 รายในรอบเกือบ 2 เดือน
ไทยจะชกอย่างไร เมื่อค้าออนไลน์เวียดนาม จ่อผงาดเบอร์ 1 อาเซียน
สินค้าไทยเสี่ยงโดนเท หลัง อียูหันซื้อเวียดนามเหตุมีFTA
“โควิด-19” ไม่สะเทือนเวียดนามรัฐ-เอกชนมองเศรษฐกิจยังโตต่อเนื่อง