ไม่เหลืออะไรเลย แหลกสลายลงไปกับตา อาคาร “ทรัมป์ พลาซ่า” ปิดตำนาน 40 ปี (คลิป)
อาคาร “ทรัมป์ พลาซ่า โฮเต็ล แอนด์ คาสิโน” ในเมืองแอตแลนติก ซิตี้ รัฐนิวเจอร์ซี ที่ถูกปิดมาตั้งแต่ปี 2557 ถูก "ระเบิดทิ้ง" เมื่อเร็ว ๆนี้ (17 ก.พ.)ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที
อาคารทรัมป์ พลาซ่าฯ ก่อสร้างในปี 2527 ดำเนินธุรกิจโรงแรมและคาสิโนมาเป็นเวลาเกือบ ๆ 40 ปี เป็นอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของ อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อมาบ่อนคาสิโนในอาคารดังกล่าวปิดตัวลงในปี 2557 กลายเป็นอสังหาฯที่ไม่ทำเงิน และจำเป็นต้องระเบิดทิ้งในที่สุด มหาเศรษฐีคาร์ล ไอคาห์น นักลงทุนเจ้าของที่ดินผืนดังกล่าวในปัจจุบันยังไม่มีแผนว่าจะพัฒนาที่ดินต่อไปอย่างไรในอนาคต
สื่อต่างประเทศรายงานว่า การระเบิดตึกทิ้ง ในครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก หลายคนเดินทางมายังที่นี่เพื่อรอชมการระเบิดตึกทิ้ง และโรงแรมที่อยู่รอบข้างก็เสนอห้องพักราคาพิเศษสำหรับผู้ที่ต้องการมองการระเบิดตึกจากมุมสูงที่ดีที่สุด
ข่าวระบุว่า งานระเบิดทิ้งอาคารสูง 34 ชั้นครั้งนี้ต้องใช้ระเบิดไดนาไมท์ประมาณ 3,000 ลูก ใช้เวลาระเบิดเพียงไม่กี่วินาทีอาคารทั้งหลังก็ทลายลงเป็นจุล
นอกจากอาคารทรัมป์ พลาซ่าฯ แล้วอาณาจักรธุรกิจของทรัมป์ยังเคยมีอสังหาริมทรัพย์ใหญ่อีกแห่งในแอตแลนติก ซิตี้ คือ “ทรัมป์ ทัชมาฮาล โฮเต็ล แอนด์ คาสิโน” ซึ่งปิดตัวลงแล้วเช่นกันอย่างเป็นทางการในปี 2559 หลังการปรับปรุงกิจการมีการเปิดดำเนินการใหม่ภายใต้ชื่อ “ฮาร์ด ร๊อค”
ความล้มเหลวของทั้งสองโครงการถึงกับทำให้ทรัมป์ฟ้องร้องบริษัทที่เคยเป็นของตัวเอง คือ บริษัท ทรัมป์ เอนเทอร์เทนเมนท์ รีสอร์ทส์ ในปี 2557 เพื่อขอให้บริษัทเอาคำว่า “ทรัมป์” ออกจากชื่อโครงการคาสิโนทั้ง 2 แห่งนี้ โดยในสำนวนฟ้องทรัมป์ระบุว่า บริษัท ทรัมป์ เอนเทอร์เทนเมนท์ รีสอร์ทส์ ปล่อยให้โครงการทัช (มาฮาล) และทรัมป์ พลาซ่าฯ ล่มสลายสู่ภาวะขาดทุนย่อยยับซึ่งได้สร้างมลทินให้กับชื่อเสียงของแบรนด์ที่เลอเลิศของเขา
ทั้งนี้ ในขณะที่โครงการบ่อนคาสิโนขาดทุนและต้องปิดตัวลงนั้น ทรัมป์มีความเกี่ยวข้องกับโครงการเพียงในนาม หรือชื่อของเขาที่เป็นชื่อโครงการเท่านั้น เจ้าของที่แท้จริงคือนายคาร์ล ไอคาห์น เพราะถึงแม้ว่าทรัมป์จะเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างทั้ง “ทรัมป์ ทัช มาฮาล” และ “ทรัมป์ พลาซ่า” แต่ในปี 2552 เขาขายหุ้นทั้งหมดในบริษัท ทรัมป์ เอนเทอร์เทนเมนท์ รีสอร์ทส์ ให้กับไอคาห์น และให้ลิขสิทธิ์การใช้ชื่อ “ทรัมป์”
คลิกชมคลิปภาพจาก CNN