เจ้าหน้าที่จากฉนวนกาซา ระบุว่า มี ผู้เสียชีวิต จำนวน 53 รายจาก การโจมตีทางอากาศของอิสราเอล ขณะที่ชาวอิสราเอลเสียชีวิต 6 รายจากการที่ กลุ่มฮามาส ยิงจรวดเข้ามาในเดินแดนของอิสราเอล
นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการ สหประชาชาติ (UN) แสดงความกังวลว่า เหตุการณ์ปะทะกันระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส จะลุกลามกลายเป็น การทำสงครามเต็มรูปแบบ
ด้านนายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยวานนี้ (12 พ.ค.) ถึงความคืบหน้ากรณีเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอล และ ผลกระทบต่อคนไทยในอิสราเอล ดังนี้
กระทรวงการต่างประเทศ ได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ว่า เหตุความไม่สงบที่ดำเนินมาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายน 2564 เริ่มจากเหตุการณ์ในนครเยรูซาเล็ม ต่อมาได้ขยายวงออกไปยังพื้นที่ตามเมืองต่าง ๆ ของอิสราเอล รวมทั้งเกิดเหตุโจมตีด้วยจรวดจากฉนวนกาซา และระหว่างวันที่ 9-10 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุโจมตีด้วยจรวดและบอลลูนติดวัตถุระเบิดจากฉนวนกาซา และเหตุปะทะอย่างรุนแรงระหว่างชาวปาเลสไตน์และตำรวจอิสราเอลในนครเยรูซาเล็มอีกครั้ง ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า เหตุความตึงเครียดจะดำเนินต่อไปอีก เนื่องจากมีวันเทศกาลสำคัญทางศาสนาและการเมืองที่อาจเป็นชนวนเหตุความไม่สงบอย่างต่อเนื่องในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้
ทั้งนี้ ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้ประกาศแนะนำให้คนไทยในอิสราเอลเพิ่มความระมัดระวัง ติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการอิสราเอลอย่างเคร่งครัด รวมทั้งหลีกเลี่ยงการเดินทางไปสถานที่ชุมนุม นอกจากนี้ ยังได้ประสานกับแรงงานไทยในพื้นที่ต่าง ๆ ที่มีเหตุการณ์ความไม่สงบ
ซึ่งล่าสุดทราบว่า มีคนไทยได้รับบาดเจ็บหนึ่งรายจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งทางสถานเอกอัครราชทูตฯ กำลังดูแลและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ในส่วนของการจัดเที่ยวบินพิเศษเพื่อนำคนไทยกลับประเทศไทย เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้จัดเที่ยวบินโดยมีคนไทยเดินทางกลับ จำนวน 222 คน ซึ่งผู้โดยสารทุกคนมีผลการตรวจว่าปลอดเชื้อโควิด-19 ก่อนเดินทาง 72 ชม. และจะเข้ารับการกักตัวตามหลักเกณฑ์ที่ทางการไทยกำหนด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง