โรงงานน้ำตาล ต่ออายุรับประกันราคาซื้ออ้อยสดขั้นต่ำตันละ 1,000 บาท อีก 1 ปี

07 ก.ย. 2564 | 06:32 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ก.ย. 2564 | 13:33 น.

โรงงานน้ำตาล ต่ออายุรับประกันราคาซื้ออ้อยสดขั้นต่ำที่ตันละ 1,000 บาท อีก 1 ปี หวังกระตุ้นชาวไร่เพาะปลูกเพิ่ม ดันอ้อยเข้าหีบในฤดูการผลิต 2565/66 เพิ่มเป็น 100 ล.ตัน

นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี ประธานคณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย หรือ TSMC เปิดเผยว่า  ได้ดำเนินการต่ออายุการรับประกันราคารับซื้ออ้อยสดเข้าหีบในฤดูการผลิตปีถัดไป (2565/66) ที่ราคาขั้นต่ำ 1,000 บาทต่อตันอ้อย ณ ระดับค่าความหวานที่ 10 ซี.ซี.เอส. และหากราคาตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นจะพิจารณาปรับราคาอ้อยเพิ่มขึ้นให้สอดคล้องกับทิศทางราคา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ชาวไร่ และวางแผนขยายพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มผลผลิตอ้อยมากขึ้น
ทั้งนี้ การประกาศประกันราคารับซื้อผลผลิตอ้อยในฤดูถัดไปตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อให้ชาวไร่ได้มีเวลาเตรียมตัววางแผนการเพาะปลูกทั้งการจัดหาพันธุ์อ้อย การขยายพื้นที่เพาะปลูกเพื่อให้ได้ปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้น เพื่อสร้างเสถียรภาพด้านความมั่นคงด้านผลผลิตอ้อยให้แก่อุตสาหกรรม โดยเราคาดว่า ด้วยมาตรการที่ต่อเนื่องเช่นนี้จะสร้างความมั่นใจให้ชาวไร่เพาะปลูกอ้อยเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อปริมาณอ้อยเข้าหีบในฤดูการผลิตปีถัดไปเพิ่มเป็น 100 ล้านตัน

"ผู้ประกอบการโรงงานน้ำตาลมีนโยบายมุ่งสร้างความมั่นคงด้านผลผลิตอ้อยให้แก่อุตสาหกรรม เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีนโยบายสนับสนุนและช่วยเหลือชาวไร่ยึดอาชีพการเพาะปลูกอ้อยและมีรายได้เลี้ยงดูครอบครัว จึงได้ประกาศต่ออายุการรับประกันราคารับซื้ออ้อยสดเข้าหีบในฤดูการผลิตปีถัดไปดังกล่าว"   
สำหรับนโยบายการประกันราคารับซื้ออ้อยสดขั้นต่ำ 1,000 บาทต่อตัน ณ ระดับค่าความหวานที่ 10 ซี.ซี.เอส ซึ่งเริ่มประกาศใช้ตั้งแต่ฤดูการผลิตปีนี้ (2564/2565) ทำให้ชาวไร่ไม่ต้องกังวลเรื่องราคาอ้อยและทุ่มเทการดูแลพื้นที่เพาะปลูกอ้อยอย่างเต็มที่ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ สด สะอาด จัดส่งให้แก่โรงงาน โดยคาดว่า ปริมาณอ้อยเข้าหีบในปี 2564/65 จะเพิ่มขึ้นเป็น 87-90 ล้านตันอ้อย เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีปริมาณอ้อยเข้าหีบที่ 67 ล้านตัน อีกทั้ง เป็นการสร้างแรงจูงใจให้ชาวไร่ตัดอ้อยสดส่งมอบให้แก่โรงงานที่ช่วยลดปัญหาการเผาอ้อยในระยะยาวอีกด้วย

"โรงงานน้ำตาลทุกแห่งได้เตรียมแผนมาตรการป้องกัน เฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 (Covid-19) รองรับกับการเปิดหีบอ้อยประจำฤดูการผลิตปี 2564/65 โดยโรงงานได้สนับสนุนให้พนักงานทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดเข็มแรกให้ครบ 100% จากปัจจุบันที่มีฉีดไปแล้วกว่า 50% พร้อมกันนี้ ยังได้ยึดกรอบนโยบายตามมาตรการ Bubble and Seal ของภาครัฐที่มุ่งเน้นการป้องกันการแพร่ระบาดมาเป็นแนวทางปฎิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อเฝ้าระวัง ติดตามและป้องกันการแพร่ระบาด โดยมีมาตรการคัดกรองพนักงานที่เข้ามาปฏิบัติงานภายในโรงงานทุกวันและผู้ที่มาติดต่อทุกรายเข้าเขตพื้นที่โรงงาน พร้อมจัดหาพื้นที่คัดแยกผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ เพื่อเฝ้าระวังและประสานงานไปยังสาธารณสุขจังหวัดหรืออาสาสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หากพบผู้ป่วยที่มีอาการเข้าไปรับการรักษาต่อไป"