นายเผชิญศักดิ์ สาสุธรรม ร้านปาดแม่โจ้พันธุ์ไม้ ผู้ผลิตต้นกล้าไม้ผลใน อ.สะเดา จ.สงขลา เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า หลังจากที่มีการปลดพืชกระท่อมออกจากยาเสพติดประเภทที่ 5 เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา มีการสอบถามจากลูกค้าและผู้สนใจปลูกพืชกระท่อมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ในการสั่งซื้อต้นกล้าพืชกระท่อม
จากเดิมที่ร้านผลิตต้นกล้าไม้ผล เช่น ทุเรียน ลำไยคริสตัล อยู่แล้ว จึงตัดสินใจหันมาผลิตต้นกล้าพืชกระท่อมเพิ่มอีกตัว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยหาซื้อเมล็ดจากเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดชุมพร
“ผมมีฐานลูกค้าอยู่จำนวนมาก ซึ่งหลายคนสนใจที่ปลูกพืชกระท่อม จึงเตรียมการผลิตต้นกล้าพืชกระท่อมขึ้นมาในขณะนี้เพื่อจำหน่าย บางรายต้องการ 300-400 ต้น บางรายต้องการหลัก 10,000 ต้นก็มี แต่ผมไม่มีของจะขาย”
นายเผชิญศักดิ์ กล่าวและว่า ลูกค้าที่สอบถามเข้ามา มีทั้งที่เป็นการปลูกรายย่อย 5-10 ต้น ไปจนถึงการปลูกเชิงธุรกิจเป็นการปลูกแปลงใหญ่ เหมือนกับการปลูกทุเรียน และยางพารากันเลย ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่สอบถามเข้ามาเพื่อซื้อต้นกล้า จะมีทั้งลูกค้าในพื้นที่และลูกค้าจากนอกพื้นที่ ล่าสุดก็มีลูกค้าจากทางภาคอีสานก็สนใจโดยจะซื้อในจำนวนมาก
ส่วนราคาต้นกล้าในตลาด ณ ปัจจุบันค่อนข้างสูง เนื่องจากเพิ่งปลดล็อก ทำให้ความต้องการปลูกค่อนข้างมีมาก แต่ไม่มีต้นกล้ารองรับ ทำให้ราคาจึงสูงตามความต้องการ
“ต้นขนาดไม่เกิน 1 ฟุตตอนนี้ราคาสูงสุดอยู่ต้นละประมาณ 350 บาท แต่คาดว่าหลังจากนี้ประมาณ 6 เดือนราคาก็น่าจะปรับลดลงมา เนื่องจากบางแปลงเริ่มผลิตต้นกล้าออกมาได้แล้ว”
นายเผชิญศักดิ์ ยังกล่าวถึงอนาคตตลาดของต้นกล้าพืชกระท่อมว่า ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย ปัจจัยเรกก็คือ หากการบริโภคยังจำกัดวงอยู่ในคนกลุ่มหนึ่งที่กินแบบสดซึ่งมีไม่มาก เมื่อถึงจุดหนึ่งราคาต้นกล้าก็ลดลง
ปัจจัยที่สอง หากการบริโภคพืชกระท่อมขยายไปในวงกว้าง โดยเฉพาะเชิงอุตสาหกรรมที่มีการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ หรือการสกัดเป็นยา การปลูกเชิงธุรกิจก็จะมีมาก ราคาต้นกล้าก็จะไม่ลดลงต่ำมาก
“ราคาต้นกล้าพืชกระท่อมในอนาคตราคาปรับลดลงแน่นอน เมื่อมีการผลิตต้นกล้าออกมาก ๆ ราคาอาจจะไม่เกินต้นละ 100 บาท แต่ก็ยังเป็นโอกาสสำหรับตลาดต้นกล้าพืชกระท่อมในเชิงธุรกิจ” นายเผชิญศักดิ์ กล่าว