การสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 39 ในครั้งนี้ จัดขึ้น ภายใต้หัวข้อ Connect the Dots: Design the Future รวมพลัง... สร้างสรรค์อนาคต ซึ่งเป็นความตั้งใจของภาคเอกชน ที่อยากจะรวมพลังกับทุกภาคส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยไปข้างหน้า และมุ่งหวังให้ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน เชื่อมโยงการทำงานกัน พร้อมทั้งมีส่วนร่วมในการช่วยกันออกแบบภาพอนาคตของประเทศไทย ให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน
หลัก ๆ คือเป็นการที่ท่านนายกรัฐมนตรีจะมารับฟังสรุปการสัมมนาฯด้วยตัวท่านเอง ในวันอาทิตย์และท่านก็จะมีการให้เกียรติ กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “จับมือ รวมใจ พาไทยรอด” นอกจากนี้ เรายังได้ความร่วมมือจากวิทยากรทั้งภาครัฐและหน่วยงานต่างๆ มาแสดงความเห็น โดยเฉพาะท่านผู้ว่าราชการจังหวัดและพาณิชย์จังหวัดที่จะเข้ามาร่วมงานด้วย
และสิ่งสำคัญ คืองานนี้เป็นการประชุมในรูปแบบ Hybrid มีการเตรียมการป้องกันการแพร่ระบาดตามมาตรการของทางภาครัฐ รวมถึงได้มีการเปิด Live ผ่าน facebook ของหอการค้าไทยและเครือข่าย ให้ผู้สนใจมาฟังเนื้อหาการสัมมนาในทุกช่วง ถือว่าเป็นงานสัมมนาใหญ่ที่มีการระดมความเห็นจากทั่วประเทศงานแรกหลังมีการเปิดประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นมา
สิ่งที่สำคัญมาก ๆ อีกงานหนึ่งคือการมอบรางวัลผู้ว่าราชการจังหวัดสำเภาทอง โดยหลังจาก ท่านนายกฯได้กล่าวปาฐกถาเสร็จ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะเป็นผู้มอบรางวัลให้ท่านผู้ว่าฯ โดยสิ่งนี้เป็น ตัวอย่างที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม ถึงการทำงานร่วมกันของทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ โดยเฉพาะจากสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา
จากการที่มีการเปิดประเทศ และเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวกลับมาจากการ Lock down ที่ผ่านมา หลายภาคส่วนได้รับผลกระทบมาก อย่างที่ทางหอการค้าไทยได้ประเมินไว้ว่าความเสียหายในปีนี้นั้นมากกว่า 1 ล้านล้านบาททีเดียว นอกจากนั้น จากบริบทของโลกที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะ ด้าน Digital Transformation และ Technology ต่าง ๆรวมถึงการคำนึงถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมก็กลับมา ทำให้เกิดโอกาสและความท้าทาย ขึ้นมาก ดังนั้นสิ่งสำคัญคือ “ต้องร่วมมือกัน” เพื่อให้เราพร้อมสำหรับโอกาสที่กลับมา
ในงานนี้จะมีการปล่าวปาฐกถาพิเศษ และการบรรยายพิเศษ รวมถึงการเสวนาทุกช่วง ที่สำคัญได้แก่
20 พ.ย.2564
รวมไปถึงการเชื่อมโยง SMEs ไทย ด้วย Digital Transformation โดยนายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) และนางสาวปฐมา จันทรักษ์ กรรมการบริหาร สสว.
“ทุกหัวข้อผมเชื่อว่า ชาวหอการค้าฯ และเครือข่าย พร้อมกับผู้สนใจที่ได้ตามดูจะทราบไฮไลท์ที่สำคัญ ๆ ของประเทศไทย ในขณะนี้ที่ทุกอย่างจะเกี่ยวกับ Design The Future ที่เป็นการออกแบบอนาคตของเราด้านเศรษฐกิจ”นายสนั่น กล่าว
ผลการประชุมโดยสรุปจะมาจากการที่หอการค้าส่วนภูมิภาคทั้ง 5 ภาค นำโดยท่านประธานภาคทั้ง 5 ท่าน ได้มีการประชุมเตรียมการล่วงหน้ามาตั้งแต่เดือนที่แล้วในแต่ละพื้นที่ โดยได้มีการให้มุมมองที่สำคัญ จัดลำดับแผนงานและโครงการที่ต้องการผลักดัน มุมมองของภาคเอกชนในพื้นที่ จะช่วยให้ภาครัฐ สามารถขับเคลื่อนภารกิจให้สำเร็จได้ร่วมกัน
นอกจากนั้นอีกส่วนหนึ่งก็จะมีการนำเอา ความเห็นของคนรุ่นใหม่ที่ทางหอการค้าฯร่วมกับ เครือข่าย จัดเวทีทิศทางอนาคตประเทศไทย ภายใต้หัวข้อ “โอกาสและทิศทางอนาคตประเทศไทยจากมุมมองของคนรุ่นใหม่” เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เน้นการเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และใช้แนวทาง Design Thinking โดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ช่วยทำหน้าที่ระดมความเห็นจากคนรุ่นใหม่ ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ
ซึ่งโดยสรุป อยากให้ภาครัฐ ทำหน้าที่เป็น Facilitator โดยหอการค้าไทยพร้อมประสานการทำงานกับภาครัฐ มุ่งหวังให้เกิดการปรับปรุง แก้ไข และเปลี่ยนแปลง และร่วมกันออกแบบอนาคตประเทศไทย
ทั้ง 3 ภารกิจ ตอนแรกเราได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่า 99 วันแรก ต้องเห็นผลให้เป็นรูปธรรม ซึ่งจากวันที่ได้รับตำแหน่งมาก็ครบวันที่ 99 พอดี ในวันที่ 1 กกรกฎาคมก็เปิดภูเก็ต(ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์)พอดี ซึ่งต่อมาแม้จะครบ 99 วันแล้ว ภาคเอกชนก็ยังเห็นว่า ภารกิจนี้สามารถทำได้ต่อเนื่อง และเป็นสิ่งที่สามารถช่วยประเทศไทยให้ฟื้นเศรษฐกิจได้
อย่างแผนเรื่องเร่งฉีดวัคซีน ก็เห็นผลชัดเจนทั้งที่เอกชนไปสนับสนุนการทำงานทั้งใน กทม. และจังหวัดต่างๆ ในวันนี้ภาครัฐก็สามารถกระจายวัคซีนให้คนได้ตามเป้าหมาย 100 ล้านโดส และเชื่อว่าทั้งเข็ม 2 และ เข็ม 3 ก็จะตามมาเรื่อยทำใหภูมิคุ้มกันของคนที่อยู่ในประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจก็จะกลับมา โดยหอการค้าฯ ก็ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการเปิดประเทศ ทั้งใน กทม. และพื้นที่ต่าง ๆ อีกด้วย
“ต่อไปจะเป็นการที่ทำให้เศรษฐกิจเราฟื้นตัวด้วยทั้งมาตรการเยียวยา และกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างที่หอการค้าไทยได้เคยให้ข่าวไปว่า ปีหน้าเราอยากให้รัฐบาลไทยตั้งเป้าหมายที่ท้าทายให้เติบโตมากว่า 6 %”นายสนั่น กล่าว